รีวิว (ภาพถ่าย) HONOR Magic6 Pro ถ่ายยังไงก็สวย..ไม่เกินจริง

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว HONOR Magic6 Pro โดยจะเจาะไปเฉพาะการถ่ายภาพเท่านั้นครับ เพราะบล็อกเกอร์หลายๆ คนคงจะรีวิวกันหมดแล้ว ซึ่งผมเองก็เพิ่งได้เครื่องมา เลยอยากเอามาลองถ่ายรูปเล่นเพื่อมาดูว่า ภาพที่จบหลังกล้องจริงๆ มันเป็นยังไง ซึ่งทุกภาพที่ผมเอามาลง ไม่ได้ผ่านโปรแกรมแต่งภาพเลยนะครับ และก็เช่นเดียวกับทุกๆ รีวิวที่ผมทำ เป็นภาพที่จบหลังกล้องทั้งหมด เพื่อจะให้คนที่กำลังตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนเพราะกล้องจะได้ตัดสินใจได้ครับว่าควรซื้อมั้ย เอาล่ะครับ มาดูภาพถ่ายกันเลย

แต่ก่อนจะไปดูรูปภาพ มารีแคปสเปคกล้องกันสักเล็กน้อยครับ สำหรับเจ้าตัวนี้ให้กล้องหลักมาที่ 50MP f/1.4-2.0 บวกกับ Periscope telephoto 180MP ที่ f/2.6 ซูม Optical ได้สูงสุด 2.5 เท่า แต่เอาจริงๆ มันซูมได้ถึง 5 เท่า โดยไม่สูญเสียรายละเอียดเลยครับเจ้าตัวนี้

ส่วน Telephoto ให้มา 50MP f/2.0 ระยะเทียบเท่าเลนส์ 13mm หรือประมาณ 122 องศาครับ

ด้านกล้องหลังถ่าย VDO ได้สูงสุด 4K 60fps เอาจริงๆ ตรงนี้แฟล็กชิปบางค่ายอาจจะมาเคลมว่า พี่ไป 8K แล้วนะน้อง แต่ถ้าให้พูดกันตรงไปตรงมา จะมีสักกี่คนที่ถ่าย VDO 8K กันตลอดเวลาจริงๆ เพราะฉะนั้น 4K ในตอนนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ แล้วครับ

ส่วนกล้องหน้าให้มา 50MP f/2.0 มุมกว้างประมาณ 22mm และยังให้เซ็นเซอร์วัดความลึกมาด้วยครับ สำหรับ VDO กล้องหน้าถ่ายได้สูงสุดที่ 4K 30fps

เอาล่ะครับ มาไล่ดูรูปไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

เซตแรกเริ่มกันที่ภาพวิวทั่วไปครับ ผมเลือกถ่ายหลัง 6 โมง เพราะอยากเห็นโทนสีของท้องฟ้ายามเย็นผสมกับสีฟ้า รูปแรกลองที่ Ultrawide ครับ เปิด HDR ด้วย จะเห็นว่ามันเก็บสีท้องฟ้าได้ดีเลยครับ ไม่เข้มจนเวอร์เกินไป ส่วนรายละเอียดตัวอาคาร สีต้นไม้ ก็ออกมาดูสมจริงครับ

ภาพที่ 2 ผมปิด HDR แล้วลองระยะ 1X สีที่ได้ออกมาถือว่าดีเลยครับ ทั้งโทนน้ำเงิน สีส้มอ่อนๆ ที่สะท้อนจากแสงอาทิตย์ ถึงแม้จะดูในคอมที่หน้าจอไม่สดเท่ามือถือ ก็ยังยอมรับครับว่าเจ้าตัวนี้กล้องให้สีสันท้องฟ้าดีมากๆ ตัวนึงเลย

มาดูอีกรูปนึงครับ ภาพนี้จงใจถ่ายให้เห็นมิติของฉาก ทั้งสะพาน ตัวอาคาร และท้องฟ้า เพื่อดูว่ากล้องมันจัดการแสงในแต่ละจุด และเก็บรายละเอียดได้ดีขนาดไหนแม้แสงจะเริ่มน้อยลง ปรากฎว่าได้ภาพตามที่เห็นเลยครับ

ต่อมาลองถ่ายวิวแบบ 2.5X ดูบ้าง เป็นยังไงครับ สีสันของภาพ และรายละเอียดของเมฆ ผมถือว่ามันทำได้ดีมากๆ เลย ทั้งๆ ที่ผมยกมาแล้วกดถ่ายเลย ไม่ได้เลือกปรับแสงก่อนถ่ายเลยครับ

ตัดกลับมาที่ 5X กับภาพท้องฟ้าสีส้มๆ เหมือนเดิมครับพอได้มุมที่ต้องการแล้วก็กดถ่ายเลย ไม่ได้ปรับแต่งอะไร ก็ได้ภาพออกมาแบบนี้เลยครับ ลองซูมเข้าใกล้ๆ ก็ยังเห็นว่ามันเก็บรายละเอียดได้ดีจริงๆ

หรือจะใข้ 5X ถ่ายแนวสตรีทก็ทำได้ดีครับ ถึงแม้จะแสงน้อยแต่ก็ยังถ่ายนักวิ่งได้ดูหยุดนิ่ง ถ้าไม่ขยายภาพมากเกินไปก็แทบจะไม่มีส่วนที่เบลอเลยครับ

กลับมาที่ 1X ถ่ายวิวตอนกลางคืนแบบมีวัตถุวิ่งผ่าน อันนี้ตั้งกล้องรอ BTS วิ่งผ่านเลยครับ สรุปก็ได้ตามที่เห็น คือตัวรถไฟฟ้ามันเร็วมาก เลยเบลออยู่แค่อย่างเดียว ส่วนรถที่เคลื่อนตัวช้าๆ ถือว่าได้ภาพที่หยุดนิ่งอยู่ระดับนึงเลยครับ

ลองถ่ายไฟจากอาคารดูบ้างครับ ภาพแรกเป็น Ultrawide จะเห็นว่าภาพให้มิติที่ดีมากๆ หรือจะซูมถ่ายหลังคาจากด้านบน ก็ยังได้ภาพที่คมชัดครับ ลองค่อยๆ ซูมเข้าไปดูก็จะเห็นเลยว่ามันเก็บรายละเอียดภาพได้ดีแม้แสงรอบข้างจะน้อยก็ตาม

จบจากถ่ายวิวทั่วไป มาดูการถ่ายอาหารกันบ้างครับ ส่วนมากผมจะใช้ 2X กับ 2.5X ในโหมด Portrait ถ่ายครับ แบบปิดโหมด Strong Bokeh ถ้าให้พูดภาพรวมก็คือเจ้าตัวนี้ ให้สีสันอาหารออกมาสมจริงมากๆ เก็บรายละเอียด Texture ต่างๆ ของอาหารได้ดี ดูน่ากิน คือขยายไปดูก็จะเห็นเลยว่ามันเก็บหมดจริงๆ ใครที่กำลังมองหากล้องสำหรับถ่ายเมนูอาหาร เจ้าตัวนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยครับ

มาดูการถ่าย Portrait กันบ้างเล็กน้อย คนที่ถ่ายแฟนสีผิวนวลๆ จัดไปครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนเรื่องการทำเบลอฉากหลัง เจ้าตัวนี้ก็ทำได้ดีเช่นกันครับ ไม่มีเบลอผิดเบลอมั่วเบลอผิดจุดให้เห็นเลยครับ

และสุดท้าย เอามาถ่ายน้องๆ อวดเพื่อนได้ คือต้องยอมรับเลยว่าเลนส์มันเก็บรายละเอียดกับวัตถุเล็กๆ ได้ดีจริงๆ ครับ ลองซูมเข้าไปก็ยังเห็นถึงความคมชัดของพวกส่วนประกอบที่มันมากับ Art Toy ช่วยคนที่สายตาเริ่มยาวแบบผมมองรายละเอียดน้องๆ แบบชัดเจนผ่านภาพจากกล้องได้เลย

ส่วน VDO ผมทดสอบที่ 1080p 60fps ครับ ซึ่งเจ้าตัวนี้งาน VDO ถือว่าทำได้ดีครับ การเดินถ่ายถือว่าสมูทมากๆ และจับโฟกัสได้ดีครับ ส่วนถ้าเราแพนกล้องไปมาก็ต้องถือว่าตัวกันสั่นมันช่วยได้มากทีเดียวครับ

ก็ประมาณนี้ครับสำหรับการทดสอบภาพถ่าย

มาดูสเปคเครื่องคร่าวๆ กันต่อครับ สำหรับเจ้าตัวนี้ให้หน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.8 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ Dolby Vision ความสว่างสูงสุดได้ถึง 5000 nits

ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ให้ RAM 12GB และ ROM 512GB

แบตเตอรี่ 5600 mAh รองรับการชาร์จไวที่ 80W แบบเสียบสาย และ 66W แบบ wireless

ส่วนราคาเปิดมาที่ 34,990 บาทครับ

ก็ประมาณนี้ครับสำหรับการ รีวิว (ภาพถ่าย) HONOR Magic6 Pro ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ใครที่กำลังมองหาแฟล็กชิปสักตัวที่ถ่ายรูปดีๆ เจ้าตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ถึงแม้จะได้ไม่คอลแลปกับแบรนด์ดังๆ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เขาพัฒนามา คุณภาพก็ไม่ได้ด้อยกว่าเลยครับ

แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นอย่างไรก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้นะครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่กับรีวิวครั้งต่อไป สำหรับวันนี้ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

–รีวิว POCO F6 Pro สเปคเรือธง เริ่มต้นแค่หมื่นกลาง

• Facebook
• X
• Line