รีวิว PICO 4 แว่น VR แบบ All-in-One ได้เวลาเข้าสู่โลกใหม่ในราคาเข้าถึงได้

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะพามา รีวิว PICO 4 แว่น VR แบบ All-in-One จากค่ายจีน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่สนใจเข้าสู่โลก Virtual

ผมเองก็ได้ทดลองเล่นอยู่ 2-3 สัปดาห์ หลังจากได้เครื่องมาทดสอบ เพื่อให้เราคุ้นเคยกับฟีเจอร์ เรียนรู้การตั้งค่า และความหลากหลายของคอนเทนต์ เกม และความบันเทิงต่างๆ

–รีวิว Infinix NOTE 30 5G สมาร์ทโฟนสำหรับเกมเมอร์ ราคาไม่ถึง 8,000 บาท

เอาล่ะ ผมจะมาเล่าให้ฟังกันว่า เจ้า PICO 4 มันใช้งานยังไง และมันทำอะไรได้บ้าง มาดูกันเลยครับ

เริ่มต้นที่การใช้งานหลังจากแกะกล่องกันเลยครับ ก่อนจะสวมชุดเฮดเซ็ต แนะนำว่าให้สวมคอนโทรลเลอร์และล็อกสายคล้องไว้ที่ข้อมือก่อนครับ ฝั่งที่เป็นปุ่ม AB ใช้กับมือขวา ส่วน XY ใช้กับมือซ้าย

ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ทางด้านขวาของเฮดเซ็ต เป็นปุ่มเล็กๆ กดค้างไว้เพื่อเปิดเครื่อง ส่วนปุ่มที่อยู่บริเวณด้านหน้าของสายคาด เอาไว้ใช้เพิ่ม-ลดเสียง ส่วนกลมๆ ด้านหลังนั่นเอาไว้ปรับความแน่น

อย่างที่รู้กันว่าเจ้า PICO 4 นั้นให้ตัวเว้นระยะแว่นตา กับ แป้นจมูก 1 อัน ซึ่งวิธีใส่ก็จะต้องถอดส่วนที่เป็นฟองน้ำติดกับเฮดเซ็ตออกมาก่อน ซึ่งก็ดึงออกมาได้ไม่ยาก จากนั้นก็ใส่ตัวเว้นระยะแว่นตา กับ แป้นจมูกเข้าไป แล้วค่อยติดส่วนที่เป็นฟองน้ำกลับเข้าไป

ด้านคอนโทรลเลอร์ ปุ่มที่ใช้บ่อยคือ ปุ่มด้านหน้าคอนโทรลเลอร์ที่เป็นปุ่มใหญ่ๆ ใช้แทนปุ่ม ยืนยัน หรือกับบางเกมก็ใช้เป็นปุ่ม Action เช่นยิงปืน

ส่วนปุ่มที่เป็นสัญลักษณ์กลมๆ ใกล้ๆ กับปุ่ม A ในมือขวา หรือ ปุ่ม X ในมือซ้าย จะใช้เพื่อเปิด-ปิด การใช้คอนโทรลเลอร์ได้ ส่วนปุ่มขวาสุดของคอนโทรลเลอร์มือขวา กดค้างไว้จะอัดวิดีโอได้ แต่ถ้ากดแล้วปล่อยจะเป็นการแคปภาพนิ่ง

เอาล่ะครับ หลังจากเข้ามาได้แล้ว เริ่มต้นครั้งแรกระบบก็จะบอกให้เราระบุพื้นที่ปลอดภัย โดยเริ่มต้นที่ย่อตัวลงไปจนถึงพื้นเพื่อกำหนดความสูง จากนั้นก็จะระบุขอบเขตรอบๆ ตัว ซึ่งเราสามารถวาดระยะที่ปลอดภัยเองได้

อ่อ ลืมบอกเลยว่า ก่อนจะเข้าเล่น ให้ติดตั้งแอป PICO VR บนสมาร์ทโฟนของคุณก่อน สมัคร Account ดาวน์โหลดเกมหรือโปรแกรมที่ต้องการก่อนได้ เมื่อเราเข้ามาล็อกอินที่ PICO 4 มันจะดาวน์โหลดให้เราอัตโนมัติ

เข้าสู่หน้าหลักก็จะเจอเมนู ตรงนี้ผมว่าคนที่ใช้สมาร์ทโฟนมาแล้วก็จะเข้าใจไม่ยาก เพราะหลักการมันเหมือนกันเลยครับ เพียงแค่เราต้องใช้คอนโทรลเลอร์เป็นตัวชี้แล้วกดเลือกไปว่าเราจะทำอะไร

ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าอุปกรณ์ การเพิ่มลดความสว่าง เสียง การเชื่อมต่อ Wi-Fi การเข้าถึงข้อมูล User ต่างๆ

กลับมาที่ส่วนของแอปพลิเคชัน ก็จะมีทั้งเกม และ พวกความบันเทิงต่างๆ ที่เป็นแบบ Panoramic view

มาเริ่มต้นกันที่เกมเลยครับ ครั้งนี้ผมเน้นการทดสอบไปที่เกม All in one Sports VR ที่รวมกีฬาที่เล่นผ่านแว่น VR ได้ ไม่ว่าจะเป็น ปิงปอง แบดมินตัน เทนนิส เบสบอล สนุกเกอร์ วอลเลย์บอล มวย ยิงธนู โบว์ลิ่ง ปาเป้า อยากจะเล่นเกมไหนก็ใช้คอนโทรลเลอร์ขวา กดปุ่มด้านหน้าพร้อมเอามือไปคว้าตัวละครในเกมนั้นมาวางตรง Stadium กลางได้เลย

ลองมาดูเกมที่ผมเล่นกันไปทีละเกมเลยครับ

เริ่มต้นที่มวยเลยดีกว่า เกมนี้หลักการง่ายๆ เลย คือ ต่อยกับตั้งการ์ดกัน ก่อนจะเริ่มชกให้มองที่พื้นจะเห็นจุดที่เกมให้เรายืน ไม่ต้องเดินนะครับ จากนั้นก็เริ่มเล่นได้เลย ยกการ์ดกันไป ต่อยไป สนุกดีครับ

มาต่อกันที่ วอลเลย์บอล เป็นหนึ่งเกมที่ผมเล่นบ่อยมาก ทีแรกก็คิดว่าจะเคลื่อนไหวยาก แต่พอเล่นไปก็ไม่ยาก เรามีหน้าที่ใช้มือ อันเดอร์ เซ็ต และ ตบ เหมือนกันเล่นวอลเลย์บอลจริงๆ โดยในเกมจะมี AI ตัวนึงมาเล่นเป็นคู่เรา

มาที่แบดมินตัน เป็นเกมแรกที่ผมเข้าไปลอง เกมนี้ก็ไม่ต้องเดินเหมือนกันครับ ส่วนมากจะต้องเหวี่ยงมือจากบนลงล่างเพื่อตบลูก เพราะตัวเกมจะเคลื่อนที่ไปในจุดที่ฝ่ายตรงข้ามตีให้อัตโนมัติ ใครได้ 6 แต้มก่อนก็ชนะไปเลย

มาที่เทนนิสบ้าง อันนี้ต้องเหวี่ยงมือตีทางด้านข้าง ใครที่ห้องแคบ ๆ อาจจะต้องระวังมือไปฟาดกันนิดนึงครับ เช่นเดียวกับแบดมินตัน คือไม่ต้องวิ่งครับ แค่ตีโฟร์แฮนด์ หรือ แบคแฮนด์ ให้ได้ก็พอ

สำหรับ ปิงปอง ต้องบอกว่าเป็นเกมนึงที่เล่นได้คล้ายกับการเล่นจริงที่สุด เพราะเราจะยืนอยู่ตรงกลางของโต๊ะเลย แค่คอยตีกลับไปให้ทัน อ่อ เกมนี้มีตีลงขอบโต๊ะเหมือนกับปิงปองจริงๆ ด้วยครับ

การแทง Pool Table เป็นอีกหนึ่งเกมที่ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นอยู่จริงๆ มากครับ และเป็นอีกหนึ่งเกมที่ผมชอบเข้าไปเล่น

ซึ่งเกมพวกนี้นอกจากจะเล่นกับบอทได้ ก็ยังสามารถเล่นกับคนที่ออนไลน์ได้ด้วยนะครับ ก่อนเล่นเกมให้กดตรง Multi ระบบก็จะค้นหาคนที่ออนไลน์มาเล่นกันเราได้ แต่จากที่ลองกดดู ไม่ค่อยมีคนออนไลน์เท่าไหร่ครับ และอีกข้อสังเกตก็คือ พอเล่นกับคนแล้วจะมีดีเลย์เล็กน้อย ไม่ลื่นไหลเหมือนเล่นกับบอท

อ่ะ ยังมีอีกหลายเกมเลยนะครับที่สนุก และสามารถเล่นได้ทั้งวันเลย ถ้าไม่ปวดตา ไม่เมื่อยจากการใส่แว่น VR นานๆ ซะก่อน

ความบันเทิง

มาดูส่วนที่เป็นความบันเทิงกันบ้างครับ เจ้า PICO 4 นั้นมีพร้อม PICO Video มาด้วย ที่รวมคลิปแบบ 360 องศา มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารคดีท่องเที่ยวต่างๆ อย่างที่เห็นนี่คือพาไปดูแสงเหนือครับ อารมณ์เหมือนไปยืนอยู่ในสถานที่จริงๆ ยกเว้นหนาวไม่เท่ากัน

ลองมาขึ้น London Eyes กันบ้างครับ ดูวิวลอนดอนจากที่สูง ก่อนจะไปนั่งรถบัสชมเมืองลอนดอนกัน ซึ่งก็มีบรรยายด้วยนะครับ หรือจะลงไปดูปลาในท้องทะเลแบบ 360 ก็มีครับ

นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์พวก ให้ไปนั่ง Roller Coaster ให้รู้สึกหวาดเสียว ดูคลิปโชว์ต่างๆ หรือเข้าไปอยู่ในหนังสยองขวัญก็มีเช่นกัน

แต่ที่เริ่มน่าตื่นเต้นมากขึ้นกับการเล่น VR คือ เริ่มมีครีเอเตอร์เข้ามาทำ LIVE กันแล้ว แต่คอนเทนต์ส่วนมากยังเป็นพวกสาวๆ มาโชว์ความสามารถ หรือแคสเกมกัน

นอกจากนั้น หากจะอยากเข้าสู่โลกออนไลน์ผ่าน Browser ก็ทำได้ผ่าน PICO Browser ที่เชื่อมระบบค้นหากับ Google ไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ผมก็ลองดู YouTube ผ่าน Browser ดูครับ จอใหญ่สมใจทีเดียว

จบไปแล้วครับ สำหรับการ รีวิว PICO 4 แว่น VR แบบ All-in-One ถ้าถามผมก็ต้องบอกว่าหากใครอยากลองเล่นแว่น VR แบบที่ไม่ต้องไปเชื่อมต่อผ่านคอมหรือเครื่องเกม เจ้าตัวนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะถือว่าราคาไม่แรงมาก ในรุ่นความจุ 128GB นั้นราคา 13,990 บาท และความจุ 256GB อยู่ที่ราคา 15,990 บาท

แต่ก็จะมีข้อสังเกตอยู่บ้างคือ เกมฟรีไม่ค่อยมีให้เล่น จะต้องซื้อเพิ่มกันและเกมดีๆ ราคาก็แรงเหมือนกันครับ เพราะต้องยอมรับว่าการพัฒนาเกม VR นั้นยากกว่าการพัฒนาเกมมือถือทั่วไป อีกส่วนหนึ่งก็คือ ถึงแม้ว่าความละเอียดจะสูงถึงระดับ 4K จากการมองด้วยตา 2 ข้างแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังชัดไม่พออยู่ดีในความรู้สึกของผมครับ ถ้ารุ่นต่อไปทำออกมาได้คมชัดกว่านี้ และมีคอนเทนต์ในระดับ 4K หรือมากกว่าขึ้นไปมากๆ ก็เชื่อว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นแน่นอน

แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นยังไงก็คอมเมนต์บอกเราได้ครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่กับการรีวิว Gadget ที่น่าสนใจ สำหรับวันนี้ผม แสบ ทรงกลด แซ่โง้ว ขอลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

• Facebook
• X
• Line