สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว realme Buds T110 หูฟังไร้สายที่มาพร้อมระบบการตัดเสียงรบกวนแบบ AI ENC แถมยังเปิดมาในราคาสุดคุ้มจริงๆ ที่ 899 บาท ซึ่งในครั้งนี้ผมได้ลองเอามาใช้จริงๆ กับการเดินทางไปต่างประเทศ ที่ต้องทั้งนั่งเครื่องบิน นั่งรถระหว่างเมือง ก็อาศัยเจ้าหูฟังตัวนี้ ช่วยสร้างความบันเทิงระหว่างการเดินทางโดยไม่ต้องไปรบกวนคนรอบข้าง เอาล่ะครับ ผมจะขอสรุปเป็นเรื่องๆ ไป ตั้งแต่ความรู้สึกของการจับตัวเครื่อง การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และระบบเสียงหลังได้ทดลองฟังจริงครับ
ความรู้สึกของวัสดุ การออกแบบ
เรามาเริ่มต้นกันที่ตัวอุปกรณ์กันเลยครับ สำหรับเจ้าตัวนี้ผมต้องบอกเลยว่าเรียลมีเขาใส่ใจกับการออกผลิตภัณฑ์มากๆ ซึ่งใครที่ได้เห็นมือถือแต่ละรุ่นที่เปิดตัวมาก็คงรู้สึกเหมือนกันว่ามันสวย มันดูมีราคา เช่นเดียวกันครับ เจ้าตัวนี้ได้รับการออกแบบสีสันของตัวเคสมาให้ดูแพงกว่าราคาค่าตัว วัสดุที่ใช้ดูแข็งแรง ลองเคาะตัวเคสดูก็รู้สึกได้ถึงความแน่น และไม่มีอาการย้วยเวลาที่เราเผลอบีบตัวเครื่องแรงๆ
ด้านการเปิดฝาเพื่อหยิบหูฟังออกมาก็ง่าย เพราะเขาทำร่องให้เอานิ้วดันหรือเล็บงัดฝาเปิดออกมาได้ อีกส่วนคือเคสไม่ลื่น คือบางแบรนด์เขาออกแบบตัวเคสมาซะลื่นพอเราจะเปิดฝาออกเพื่อหยิบหูฟังมันดันไม่ขึ้นครับ
มาดูหูฟังกันบ้างครับ เจ้าตัวนี้เป็นหูฟัง In Ear ถูกออกแบบตัวก้านหูฟังมาให้ขอบด้านนอกแบนๆ คือแบรนด์ส่วนมากจะออกแบบมาให้มนๆ นิดนึง แต่ตัวนี้แบนเลยครับ
ด้านความแข็งแรง ต้องบอกเลยว่าแข็งแรงมากๆ ครับ จากการที่ลองเคาะดูวัสดุค่อนข้างแน่น ไม่มีเสียงแบบกลวงๆ เลย
ถามว่าลองใส่แล้วเป็นยังไง เรื่องความแน่น อันนี้ยอมรับครับว่าตัวหูฟังเสียบเข้าไปแล้วมันติดแน่นดีครับ แต่หากใครที่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยพอดี ลองเปลี่ยนยางครอบดูได้ครับ เขาให้มา 3 ขนาด
ด้านความสบายในการใส่ยาวๆ ผมลองใส่นานสุดประมาณ 1.30 ชั่วโมงครับ คือใส่จนหลับไปเลยทั้งตอนบิน และตอนนั่งรถระหว่างเมือง อันนี้กล้าเคลมเลยว่าไม่มีอาการปวดหูเวลาใส่นานๆ เลย
(ข้อมูลเสริม ตัวเคสมีหน้ำหนักอยู่ที่ 42 g กันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX5 Water Resistant ป้องกันเหงื่อได้สบายๆ เวลาใส่ออกกำลังกาย)
การใช้งาน เชื่อมต่อ
มากันที่การเชื่อมต่อระหว่างหูฟังกับสมาร์ทโฟนกันบ้างครับ เจ้าตัวนี้ใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เหมือนกับหูฟังไร้สายทั่วไป
ขั้นตอนง่ายๆ คือ เปิด Bluetooth ที่มือถือ จากนั้นก็เปิดฝาเคสให้ไฟสีเขียวๆ ขึ้น จากนั้นก็เอามือถือสแกนหา Device (ส่วนมากตัวเครื่องจะสแกนเจอเอง) พอเห็นตัวหูฟังขึ้นมาก็กดเชื่อมต่อ (Pair) ก็ใช้งานได้ทันที
พอเลิกใช้ก็ถอดเก็บใส่เคสมันจะตัดการเชื่อมต่อเอง แล้วพอหยิบออกมาเสียบที่หูใหม่ มันก็จะเชื่อมต่อให้เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งหุฟังบางรุ่นมันไม่ยอมเชื่อมต่ออัตโนมัตินะครับ ต้องกดเชื่อมต่อใหม่
แต่ถ้าใครมีมือถือ 2 เครื่อง แล้ว Pair ไว้ทั้ง 2 เครื่อง หูฟังมันจะจำเครื่องล่าสุดที่เราเชื่อมต่อไว้นะครับ ถ้าจะสลับใช้ต้องปิด Bluetooth ของเครื่องล่าสุดไปก่อน แล้วค่อยเอามือถืออีกเครื่องกด Connect ครับ ถึงจะสลับได้
สำหรับการควบคุมต่างๆ ก็ไม่ยากครับ แตะที่หูฟัง 2 ที เพื่อเล่นและหยุดเพลง และใช้สำหรับการรับสายโทรเข้า
ถ้ากด 3 ที ก็จะเป็นการเปลี่ยนเพลง
ส่วนการกดค้างที่ข้างขวาจะเป็นการเพิ่มเสียง ส่วนกดค้างที่ข้างซ้ายเป็นการลดเสียง และการกดค้างยังใช้เพื่อปฏิเสธการรับสายหรือวางสายก็ได้ครับ
(ข้อมูลเสริม หูฟังรองรับ Fast Charge ผ่าน USB-C ใช้ได้ยาวสุด 7 ชั่วโมง สำหรับการเล่นต่อเนื่อง และแบตเตอรี่รวมกับตัวเคสใช้งานได้รวมถึง 38 ชั่วโมง)
การฟังเพลง และไมค์
มาต่อกันที่ส่วนสุดท้าย คือการใช้งานด้านความบันเทิงครับ ซึ่งอย่างที่บอกไปว่ารอบนี้ผมทดลองใช้เยอะมากๆ กับการเดินทาง
ซึ่งความดังที่ใช้ฟังเพลงโดยปกติผมจะเปิดดังแค่ประมาณ 60-70% เพราะรู้สึกว่าเป็นความดังที่เหมาะสมกับตัวเอง ลองทั้งเพลงที่เบสหนักและเพลงป๊อปฟังสบาย ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าเจ้าตัวนี้ให้เสียงเบสได้หนักกำลังดี คืออยู่ในเกณฑ์ที่ไม่กระแทกหูจนเกินไป ส่วนตัวชอบครับ ด้านเพลงที่ฟังเบาๆ สบายๆ ก็โอเคเลยนะครับ แต่ต้องยอมรับว่าถ้าจะเอาเสียงใสแบบ ใสกิ๊ง เจ้าตัวนี้มันไม่เหมาะครับ มันขายเสียงเบสมากกว่า
เรื่องการตัดเสียงรบกวน รอบนี้อย่างที่บอกว่าผมเดินทางด้วยเครื่องบิน และบนรถทัวร์ มาเริ่มที่เครื่องบินกันก่อน คือพอใส่แล้วแทบจะไม่ได้ยินเสียงประกาศระหว่างบินเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงแจ้งจะเสิร์ฟอาหาร หรือเครื่องกำลังลดระดับอะไรพวกนี้
ส่วนตอนอยู่ในรถ ต้องบอกว่าเสียงไกด์ดังมากๆ ตอนพูดใส่ไมค์ แต่พอใส่หูฟังแล้วแบบ ไกด์พูดอะไรนะ แทบจะไม่ได้ยินเลยครับ ระบบตัดเสียงรบกวน AI ENC ที่ให้มาถือว่าผ่านครับ
สุดท้าย ไมค์ที่ติดมากับหูฟัง ผมลอง VDO Call กลับไทยครับ โดยใส่หูฟังข้างเดียวโดยที่ไม่ได้บอกอีกฝั่งว่าใส่หูฟังไร้สายคุย ซึ่งคู่สนทนาก็ไม่มีอาการแบบว่า พูดอะไรนะ พูดใหม่ซิ ซึ่งผมสรุปได้เลยว่าไมค์ดีครับ ใช้งานในชีวิตประจำวันได้
ก็ประมาณนี้ครับ สำหรับการ รีวิว realme Buds T110 หลังนำไปใช้งานจริง ถ้าถามความเห็นส่วนตัวผมคงบอกได้คำเดียวว่า ถ้าคุณต้องการหูฟังที่คุ้มค่าสักตัวนึงที่เสียงเบสแน่น ใช้งานได้ยาวนาน ไมค์เอาไว้คุยได้ เจ้าตัวนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีครับ
แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นอย่างไร ก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้ครับ สำหรับวันนี้ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ
–รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G ปรับสเปคเล็กน้อย แต่ยังคงความคุ้มค่า