สวัสดีครับคุณผู้ชม หลังจากเจ้า Samsung Galaxy A55 5G และ Galaxy A35 5G เปิดตัวมาได้สักระยะนึงแล้ว ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้ก็ชูจุดเด่นเดียวกันคือในเรื่องการถ่าย VDO 4K วันนี้ Biztalk Gadget จะมาเทียบทั้ง 2 รุ่นให้เห็นกันชัดไปเลยว่ามันมีจุดแตกต่างตอนใช้งานจริงขนาดไหน และถ้าคุณมีงบอยู่หมื่นกลางๆ และเล็งเจ้า 2 ตัวนี้อยู่แล้ว ตัวไหนจะตอบโจทย์กว่ากัน ลองมาดูกันครับ
เรามาดูความเหมือนและความแตกต่างของสเปคกันก่อนนะครับ โดยเริ่มกันที่ขนาดตัวเครื่อง ทั้ง 2 รุ่นใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080×2340 พิกเซล รีเฟรชเรต 120Hz ความสว่างสูงสุด 1000 nits เท่ากันเลยนะครับ จะต่างกันที่ขนาดตัวเครื่องเล็กน้อยแบบน้อยจริงๆ คือเจ้า A35 มันกว้างกว่า 0.06 มิล ซึ่งก็ดูไม่ออกหรอกครับ ส่วนน้ำหนัก เจ้า A55 หนักที่ 213 กรัม หนักกว่า A35 แค่ 4 กรัมเท่านั้น
ทั้ง 2 รุ่นนี้ กันน้ำกันฝุ่นที่ IP67 กันน้ำลึก 1 เมตร นาน 30 นาที เท่ากัน ก็ไม่ต้องกลัวว่าเดินตากฝนแล้วเครื่องจะมีปัญหาเลยครับ
ด้านประสิทธิภาพเครื่อง รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ตต่างกันเล็กน้อย เจ้า A55 ใช้ Exynos 1480 (4 nm) เป็นรุ่นที่พัฒนาออกมาในปีนี้ ส่วน A35 ให้ Exynos 1380 (5 nm) เป็นชิปเซ็ตที่เปิดตัวในปีก่อนมาครับ ส่วน RAM เจ้า A55 ให้มา 12GB ส่วน A35 ให้มาแค่ 8GB ซึ่งหากไปดูการทดสอบประสิทธิภาพความแรงของ AnTuTu พบกว่า Exynos 1480 ได้คะแนนดีกว่า 22% ในแง่ของการทำงานภาพรวม
กระโดดมาที่แบตเตอรี่ ทั้ง 2 รุ่นให้มาที่ 5000 mAh รองรับการชาร์จไวแบบเสียบสายที่ 25W เท่ากันครับ
สุดท้ายมาดูเรื่องกล้องกันครับ สำหรับกล้องหลัก ถึงแม้จะให้มาที่ 50MP รูรับแสง f/1.8 เหมือนกัน แต่ 2 ตัวนี้ใช้เลนส์คนละรุ่นกันนะครับ โดย A55 ใช้เลนส์ SONY IMX906 ส่วน A35 ใช้ SONY IMX882 เพราะฉะนั้นสีก็อาจจะต่างกันเล็กน้อย
ด้านเลนส์ Ultrawide เจ้า A55 ให้มา 12MP f/2.2 ส่วน A35 ให้มาที่ 8MP f/2.2 ถ่ายได้มุมกว้างเท่ากันที่ 123 องศา
และตัวสุดท้าย เลนส์ Macro ให้มาเท่ากันที่ 5MP f/2.4
ทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่มีเลนส์ Tele มาให้ เพราะฉะนั้นก็จะถ่าย Portrait ได้แค่ระยะเดียวคือ 1X ซึ่งก็แอบเสียดายเล็กน้อยเป็นการส่วนตัวครับ
ทดสอบภาพถ่าย Samsung Galaxy A55 หรือ A35
ลองมาดูภาพถ่ายกันดีกว่าครับ ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้มันถ่ายรูปออกมาแล้วเป็นยังไง แตกต่างกันมั้ย ซึ่งผมก็เอาทั้ง 2 ตัวนี้ไปถ่ายที่เดียวกัน มุมเดียวกัน มาครับ
รูปแรกนี่ผมตั้งใจถ่ายย้อนแสงเพื่อดูการจัดการแสงของทั้ง 2 ภาพ จะเห็นว่า A35 มันสว่างกว่าเล็กน้อย ซึ่งในภาพรวมผมชอบภาพของ A55 มากกว่า เพราะมันดูเกลี่ยแสงได้ดีกว่าครับ
การถ่ายรูปที่มีสีหลากหลายกันบ้าง อันนี้ผมลองถ่ายขวดน้ำผลไม้ โดยใช้โหมด Portrait เพื่อดูทั้งสีที่ได้ และการเบลอหลัง เรื่องสีต้องพูดแบบตรงไปตรงมาเลยว่า แยกไม่ออกครับ ส่วนเรื่องเบลอพื้นหลัง อันนี้แล้วแต่ชอบครับ
มาดูการถ่ายของกินกันครับทั้งชูครีม เอแคลร์ และครัวซ็อง ถ้าสีของแป้งขนมปัง ผมก็ต้องบอกเลยว่าโทนสีมันต่างกันเล็กน้อย คือเจ้า A55 จะอมเหลืองกว่า A35 ครับ ซึ่งส่วนตัวผมชอบโทนสีการถ่ายขนมของ A35 มากกว่าครับ
มาดูการถ่ายภาพกลางคืนกันบ้างครับ เทียบจากทั้ง 4 ภาพที่ผมถ่ายมา จะเห็นว่า A35 ภาพมันดูสว่างกว่าทุกรูปเลย แต่โดยภาพรวมผมมองว่า A55 จัดการแสงได้ดีกว่าและภาพดูคมกว่าครับ
ด้านกล้องหน้าอันนี้จะต่างกันมากหน่อยครับ เจ้า A35 ให้มา 13MP f/2.2 ส่วน A55 ให้มาถึง 32MP f/2.2 แต่รูปที่ออกมาเอาจริงๆ ก็ดูไม่ออกนะครับว่ามันต่างกัน นอกจากจะซูมเข้าไปถึงจะเห็นว่า A55 มันเก็บรายละเอียดรูปได้ดีกว่า โดยเฉพาะเส้นผมกับคิ้ว
มาดูเรื่องการถ่าย VDO กันบ้าง ที่เป็นจุดเด่นของเจ้าตัวนี้ โดยทั้ง 2 รุ่น ถ่าย VDO ได้สูงสุดที่ 4K 30fps เท่ากันทั้งกล้องหน้าและหลังนะครับ
ส่วนจุดต่างมีนิดเดียวครับ คือเจ้า A35 มันถ่ายกล้องหน้าแบบ FHD ได้แค่ 30fps ส่วน A55 ถ่าย VDO กล้องหน้าแบบ FHD จะได้ถึง 60fps ครับ
สำหรับตัว VDO ผมจะเปรียบเทียบความชัดของ 4K ให้ดูผ่านการแคปภาพนิ่ง ซึ่งเอาจริงๆ VDO 4K มันก็ช่วยเราได้นะครับ เกิดอยากจะถ่ายภาพศิลปินที่เราไปรอ แล้วเขากำลังเดินมา ถ้ากดถ่ายภาพนิ่งก็อาจจะไม่ทัน แต่เราใช้โหมด VDO ถ่าย 4K แล้วมาเลือกเฟรมแคปเป็นภาพนิ่งได้ ซึ่งก็จะได้รูปไซส์ใหญ่ด้วยครับ ลองมาดูรูปกันเลยครับ
จบไปแล้วนะครับ กับการรีวิวกล้องของเจ้า Samsung Galaxy A55 และ A35 ถ้าถามมุมมองส่วนตัวของคนมีงบหมื่นกลางๆ แล้วอยากได้โทรศัพท์ที่ถ่ายรูปดี VDO 4K ดูหนังเล่นเกมเล่นโซเชียลบ้างเวลาว่างแต่ไม่ขนาดเล่นหนักเล่นทั้งวัน ผมก็จะแนะนำ A35 เพราะราคาเปิดมาแค่ 11,999 บาท ในรุ่น (RAM8 ROM128) แล้วเก็บเงินส่วนที่เหลือไว้ใช้อย่างอื่นครับ
แต่ถ้าคุณใช้งานหนักจริงแบบเล่นทั้งวันแต่งบหมื่นกลาง ก็ซื้อ A55 ตัว (RAM12 ROM256) ไปเลยครับ แค่ 15,999 เอง
–รีวิว HONOR X7b คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม กล้อง 108 ล้าน แบต 6000 mAh ราคาต่ำกว่า 7,000 บาท