สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว Samsung Galaxy Z Fold6 แบบสั้นๆ ซึ่งหลายๆ คนคงจะเห็นรีวิวฟีเจอร์ใหม่ๆ กันไปมากแล้ว เพราะฉะนั้นในคลิปนี้ เราจะมาเล่าในมุมของคนที่ใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้ว แต่อยากจะเปลี่ยน อยากได้จอพับไปใช้ จะต้องรู้อะไรบ้าง และทำไมคุณถึงควรไปลองจับเจ้าตัวนี้เป็นตัวแรกก่อนตัดสินใจ มาดูกันเลยครับ
1.จุดพับ
มาเริ่มต้นกันที่ข้อแรกก่อนเลยครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ คือ จุดพับ สำหรับเจ้าตัวนี้ สิ่งที่คุณไม่ต้องกังวลเลยคือ เรื่องจำนวนการกางออกและพับเก็บ ว่ามันทนขนาดไหน แน่นอนว่ามันทำได้เป็นแสนครั้งครับ แต่ส่วนที่เราต้องมาดูว่าจอพับตัวนี้ มันแข็งแรงจริงมั้ย เราต้องลองกางออกมาแค่นิดเดียวครับ
ตรงนี้เราจะเห็นว่า ความแข็งแรงของจุดพับ มันสามารถรับน้ำหนักของตัวเครื่องได้ คือ จอพับบางค่ายทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ ถ้าเปิดแค่นี้ มันจะรับน้ำหนักไม่ไหวจนปิดลงไปเอง แล้วก็ลองกางออกไปจนเกือบสุดครับ เพื่อดูความแข็งแรง ซึ่งต้องบอกว่าเจ้าตัวนี้มันทำได้ดีทีเดียว ไม่ว่ากางแค่ไหนจุดพับมันก็ไม่มีอาการย้วยให้เห็นครับ
นอกจากนี้ เวลาที่เราพับลงไป เราจะเห็นว่ามันแทบไม่เหลือช่องว่างให้มองทะลุไปอีกด้านได้เลย ตรงนี้จะช่วยให้เราสบายใจได้ว่า เวลาเราเผลอทับมือถือ หน้าจอด้านในมันจะไม่ยุบลงไปอีก
ซึ่งหากมืช่องว่างมากๆ นั่นหมายความว่ามันมีโอกาสที่โดนทับแล้วจะหักได้มากขึ้นนั่นเองครับ
2.หน้าจอด้านนอก
หมายถึงหน้าจอ Cover ตอนที่เราพับมาใช้เหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป ซึ่งมันเคยเป็น Pain Point ที่คนเห็นแล้วยังไม่เลือกซื้อจอพับ เพราะมันมีจอก็จริงแต่ใช้งานได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถึงแม้จะให้จอมา 6 นิ้วกว่าๆ แต่ครั้งนี้ต้องเรียกว่าซัมซุงแก้การบ้านมาเรียบร้อย เพราะนอกจากจะขยายจอให้ใหญ่ขึ้นอีก 0.1 นิ้ว ยังขยายสเกลให้มันกว้างขึ้น เพื่อให้หน้าจอ Cover มันใช้ประโยชน์ได้จริง แถมยังใช้ LTPO AMOLED 2X 120Hz ความสว่างสูงสุดได้ถึง 2600 nits คือเล่นเกมโดยไม่ต้องเปิดจอใหญ่ก็ได้ เพราะบางคนอาจจะจับถนัดมือกว่า
3.หน้าจอด้านใน
ใช่ครับ เมื่อกางออกมาแล้ว มันต้องประทับใจ ความกว้าง 7.6 นิ้ว ที่ให้มาถือว่าพอดีกับการวางบนฝ่ามือ ส่วนเทคโนโลยีหน้าจอก็ให้มาสุดเท่ากับจอนอกเลย
ถึงแม้ตอนกางออกมาเราอาจจะเห็นว่ามันมีรอยบุ๋มตรงกลาง อาจจะกังวลว่ามันจะมีปัญหามั้ย เวลาดูหนัง เล่นเกม ไถโซเชียล รอยตรงนี้จะทำให้รู้สึกหงุดหงิดไหม อันนี้พูดกันแบบตรงไปตรงมา ถ้าเจอแสงสะท้อนจากหลอดไฟ ทุกแบรนด์มีปัญหาเรื่องเดียวกันหมด คือมันจะเห็นเป็นรอย แต่ถ้าไม่มีหลอดไฟมาสะท้อน เจ้าตัวนี้ถือว่าทำออกมาได้เนียนตามากๆ ครับ ไม่ว่าจะเล่นโซเชียล ดูหนัง เล่นเกม ไม่มีปัญหาเลยครับ
อีกนิดนึงครับ บางคนอาจจะอยากดูหนังแบบจอใหญ่ที่สุด ก็จะหมุนอีกด้าน ซึ่งเราจะเห็นว่าในจอใหญ่มันมีรูกล้องอยู่เล็กๆ ผมลองกลับด้านให้ดู เป็นยังไงครับ เนียนมากๆ ไม่รู้สึกว่ามีรูกล้องมารบกวนสายตาเลย ยอมรับเลยว่าเขาทำการบ้านมาดีจริงๆ
4.น้ำหนัก
ตรงนี้เป็นปัจจัยหลักของคนที่ชอบเอามือถือใส่กระเป๋าสะพายใบเล็กๆ ด้านหน้า หรือบางคนใส่กางเกงผ้าบางๆ เวลาเราพกอะไรหนักๆ มันจะรู้สึกว่าถ่วง เหมือนกางเกงจะค่อยๆ หลุดเวลาเดิน ซึ่งผมเข้าใจว่าทางซัมซุงเองก็เป็นปัญหานี้มาตลอด และพยายามลดน้ำหนักตัวเครื่องให้ได้มากที่สุด ซึ่งในรุ่นก่อนหน้ายังหนักอยู่ที่ 253 กรัม หรือ 2 ขีดครึ่ง แต่พอมารุ่นนี้นอกจากจะแข็งแรงขึ้น ยังเบาลง เหลือแค่ 239 กรัม หนักกว่า S24 Ultra แค่ 7 กรัม ขณะที่หน้าจอกางออกมาแล้วใหญ่กว่ามาก และพอน้ำหนักมันไม่มาก เวลากางออกมาน้ำหนักก็จะกระจายออกไป ทำให้เราถือเครื่องได้นานขึ้นครับ
5.ประสิทธิภาพ ความเร็ว และระยะการใช้งาน
แน่นอนว่าเป็นแฟล็กชิปที่ราคาสูงที่สุดของค่าย เรื่องสเปคไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ เพราะทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 และ GPU Adreno 750 (1 GHz) เขาใส่ตัวแรงมาให้ทั้งหมด รวมถึง RAM ก็ให้มา 12GB ด้านแบตเตอรี่ ก็ใส่มา 4400 mAh เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปตลอดทั้งวัน
6.กล้องถ่ายภาพ
เจ้าตัวนี้ให้กล้องหลังและกล้องมาเทียบเท่ากับ S24 ตัวธรรมดาที่ไม่ใช่ Ultra ถามว่าประสิทธิภาพเป็นยังไง ลองดูภาพกันไปเรื่อยๆ นะครับ
สำหรับกล้องหลังถ่ายได้ทั้งหมด 4 ระยะ คือ 0.6 1X 2X และ 3X ส่วน VDO กล้องหลังถ่ายได้สูงสุดที่ 8K 30fps ส่วน VDO กล้องหน้าได้ 4K 60fps
และยังมีกล้องที่จอใหญ่ ตัวนี้ความละเอียด 4 MP เอาไว้ใช้ VDO Call เป็นหลักครับ
7.S-Pen
ถึงแม้ว่า S-Pen จะไม่อยู่ในมือผมตอนนี้ แต่ต้องยอมรับว่าจุดขายนึงที่ทำให้คนหันมาใช้เจ้าตัวนี้กันมากขึ้น คือการมีปากกามาช่วยจดบันทึก ทำสรุป วาด Mind Map ได้ง่ายกับขนาดจอที่เขาให้มา นอกจากนี้การจะวาดรูปก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องพกแท็บเล็ตอีกตัวให้หนักกระเป๋าเพิ่ม
8.AI
เรียกว่าเป็นจุดขายที่ไม่มีคู่แข่งของเจ้ารุ่นนี้เลย ไม่ว่าจะเป็น Call Assist ที่ช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ Chat Assist และ Interpreter ที่ช่วยในการสื่อสารกับคนต่างชาติได้สะดวกมากขึ้น
ในรุ่นนี้ยังใส่ฟีเจอร์มาเพิ่มอย่าง Sketch to image ที่ AI จะมาช่วยแปลงภาพวาดให้เป็นฉากจริงๆ อันนี้ตอบโจทย์คนที่ต้องการแต่งภาพ แต่งฉาก มากๆ และยังมี Portrait Studio ที่จะเปลี่ยนหน้าของเราให้เป็นรูปภาพแนวต่างๆ ได้อีกถึง 4 รูปแบบ
ก็ประมาณนี้ครับสำหรับการ รีวิว Samsung Galaxy Z Fold6 ในสิ่งที่คนกำลังมองหามือถือจอพับควรรู้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ ส่วนราคาเปิดตัวอยู่ที่ 63,900 บาท ในรุ่น RAM 12 ROM 256GB
แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นอย่างไรก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้ตามช่องคอมเมนต์ด้านล่างนี้ สำหรับวันนี้ ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ