รีวิว Sony Xperia 1V นี่มันสมาร์ทโฟนหรือกล้องโปร

รีวิว Sony Xperia 1V นี่มันสมาร์ทโฟนหรือกล้องโปร

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะพามา รีวิว Sony Xperia 1V สมาร์ทโฟนที่เปิดตัวมาพร้อมจุดเด่นการถ่ายภาพระดับโปรทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เรียกได้ว่าใครที่กำลังมองหามือถือและกล้องที่ใช้ทำงานดีๆ สักตัวพร้อมกัน เจ้าตัวนี้ต้องถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

เอาล่ะ เรามาลงรายละเอียดกับด้านการถ่ายภาพของเจ้า Sony Xperia 1V กันเลยดีกว่า

รีวิว Nokia C32 สมาร์ทโฟนสเปคเกินคุ้ม กับราคาแค่ 3,590 บาท

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเจ้ารุ่นนี้มันถูกพัฒนามาเพื่อการถ่ายภาพจริงๆ เพราะที่ตัวเครื่องก็ใส่ปุ่มชัตเตอร์มาให้เหมือนกับการใช้กล้องจริงๆ เรียกว่าเป็นจุดขายของ Sony ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน คือ กดครึ่งนึงจะเป็นการล็อกโฟกัส และกดไปสุดเพื่อถ่าย

สำหรับกล้อง รุ่นนี้ให้กล้อง ZEISS มา 3 ตัว

  • กล้องหลัก ความละเอียด 52MP ระยะ 24mm รูรับแสงที่ f/1.9
  • กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP ระยะ 16mm รูรับแสงที่ f/2.2
  • กล้อง Telephoto 12MP ซูมออปติคัลได้ระหว่าง 85mm – 125mm หรือ (3.5 – 5.2 เท่า) รูรับแสงที่ f/2.3-2.8
  • ส่วนกล้องหน้า ให้มาที่ 12MP รูรับแสง f/2.0

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็เช่น ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึง 30 เฟรมต่อวินาที

สำหรับ VDO ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4k HDR 120fps และ มี Real-time Eye AF ที่คอยจับโฟกัสดวงตาอีกด้วย

รีวิว ภาพถ่าย Sony Xperia 1V

มากันที่โหมดกล้องภาพนิ่งกันก่อนครับ ต้องบอกว่าใครที่จับมือถือรุ่นอื่นมาแล้วเปลี่ยนมาจับเจ้า Sony Xperia 1V ต้องมีงงกันบ้างครับ แต่ถ้าใครที่ใช้กล้อง Sony อยู่แล้ว เมนูพวกนี้คงไม่มีปัญหา

สำหรับโหมดกล้องนั้นให้มาทั้งหมด 5 โหมดครับ คือ Basic จะเป็นโหมดที่ระบบ Default มาให้ นอกจากนี้ก็มีโหมด Auto โหมด P หรือ Program โหมด S หรือ Shutter Speed และ M หรือ Manual นั่นเอง

มาที่โหมด Basic กันก่อนครับ โหมดนี้เป็นโหมดที่ผู้ใช้สามารถปรับเองได้ตั้งแต่

  • ปรับ White Balance โทนอุ่น-โทนเย็น ปรับชดเชยแสง
  • ปรับความเบลอของฉากหลัง
  • ปรับการตั้งเวลาถ่ายภาพ หรือการถ่าย Burst Mode
  • ปรับฟิลเตอร์ได้ 5 โทน
  • เลือก Night Shooting ได้ว่าจะเป็นออโต้หรือปิด
  • เปิด-ปิด หรือเลือกการใช้แสงแฟลช

ด้าน โหมด Auto ก็จะเหมือนโหมดกล้องออโต้ทั่วไป คือกล้องจะปรับพวกแสงต่างๆ เองให้ เราตั้งค่าได้แค่บางอย่าง เช่น ปรับการตั้งเวลาถ่ายภาพ เลือก Night Shooting และ ตั้งค่าแฟลช

สำหรับ โหมด P หรือ Program เรียกว่าเหมือนโหมดเกือบ Auto เน้นการปรับเพิ่ม-ลดค่า ISO และชดเชยแสงด้วยตัวเอง

ส่วนโหมด S หรือ Shutter Speed ก็เน้นการปรับความเร็วชัตเตอร์ เพื่อใช้ถ่ายวัตถุที่เคลื่อนที่เร็วๆ

ส่วนโหมด M ก็ให้ผู้ใช้ปรับค่าต่างๆ เองได้หมดที่โหมดกล้องทั่วไปมี ซึ่งความเจ๋งของรุ่นนี้ คือ มันตั้งค่าให้โฟกัส หน้า และ ตา ได้ด้วย

สำหรับผม ในช่วงที่เอากล้องไปทดสอบ ผมใช้โหมด Basic ตลอดครับ เพราะรู้สึกว่ามันตอบโจทย์และใช้งานง่ายดี ปรับแต่งอะไรเองได้ง่ายๆ ดีกว่าใช้โหมด Auto อีก

ลองมาดูรูปถ่ายกันดีกว่าครับ ต้องบอกว่ารูปส่วนมากที่ไปถ่ายมาครั้งนี้ ผมใช้เลนส์ซูมถ่ายมากกว่าใช้เลนส์หลักครับ เพราะอยากเห็นประสิทธิภาพของการถ่ายวัตถุ ซึ่งเจ้าตัวนี้มันซูม Optical ได้ไกลกว่าคู่แข่งที่ 125mm

ครั้งนี้ผมได้ไปถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมวัตถุโบราณที่เป็นทองที่ขุดได้ในสมัยอยุธยามาจัดแสดงให้คนทั่วไปได้ดูกันครับ และต้องบอกก่อนเลยว่าทุกรูปที่ถ่ายมา เป็นการถ่ายผ่านกระจก ซึ่งความคมชัดก็จะลดลงไปบ้างโดยปกติ

ไล่ดูกันตั้งแต่รูปดาบเลยครับเทียบกันระหว่างรูปที่ใช้กล้องหลักถ่ายดาบเต็มๆ กับการซูมไปดูรายละเอียดของอัญมณีของด้ามจับ จะเห็นว่ารายละเอียดได้มาดีจริงๆ

รีวิว Sony Xperia 1V นี่มันสมาร์ทโฟนหรือกล้องโปร
รีวิว Sony Xperia 1V นี่มันสมาร์ทโฟนหรือกล้องโปร

มาดูกันต่อครับ ผมถ่ายมุมกว้างเพื่อให้เห็นว่าวัตถุมันเล็กมากๆ ก่อนจะซูมให้ดูบางชิ้นนะครับ ช็อตนี้มาดูกระบวยทอง กับช้อนทองกันครับ

รีวิว Sony Xperia 1V นี่มันสมาร์ทโฟนหรือกล้องโปร
รีวิว Sony Xperia 1V นี่มันสมาร์ทโฟนหรือกล้องโปร

มาดูรูปสัตว์และแมลงที่ทำมาจากทองกันบ้างครับ ถ้าวัตถุขนาดใหญ่ขึ้นมานิดนึง โฟกัสจะติดง่ายขึ้นก็จะชัดแบบนี้ครับ

หรือจะถ่ายถ้วยชามทอง เหรียญ เครื่องประดับ หรือทองที่ใช้แทนเงินในยุคนั้น ก็ยังได้ครับ

รูปนี้ผมลองซูมไปถ่ายแหวนให้เบลอหลังเล็กน้อย ภาพใช้ได้เลยครับ

ส่วนรูปนี้เป็นรองเท้าทอง ของจริงต้องบอกเลยว่าคู่เล็กมากๆ ครับ

จบจากการทดสอบประสิทธิการซูม มาดูภาพวิวกันบ้างครับ รอบนี้ผมถ่ายวิวมาไม่มากนัก เพราะหลักๆ จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ลองมาไล่ดูกันที่ละภาพเลยครับ ทั้งสีท้องฟ้า ต้นไม้ และโทนสีของดิน ต้องถือว่าทำออกมาได้ดีครับ สวยแบบธรรมชาติสีไม่จัดเกินไป เอาไปปรับแต่งต่อง่ายครับ และถึงแม้จะถ่ายตอนฟ้าครึ้มนิดนึง ภาพก็ยังออกมาสวยครับ ไม่ต้องปรับอะไรมากมายเลย ซูมไปถ่ายเจดีย์กันชัดๆ ให้เห็นรายละเอียดใกล้ๆ ก็ยังได้ครับ

มาดูการถ่ายอาหารกันบ้างครับ ทั้งของคาวของหวาน ส่วนตัวผมมองว่าโทนสีออกมาดูดีเลยครับ โดยเฉพาะถ้าเอาไปถ่ายของหวาน ดูน่ากินมากๆ

ต่อด้วยการถ่ายภาพบุคคล โทนสีที่ได้จะเป็นโทนเดียวกับกล้อง Sony เลยครับ คือผิวค่อนข้างออกไปทางโทนขาว ถ้าใส่ฟิลเตอร์นิดนึงก็ทำสีผิวนวลๆ ได้เลยครับ ไม่ติดเหลืองแน่นอน

ส่วนกล้องหน้า เซลฟีก็คมกริบจริงๆ รูขุมขนมาครบ ทั้งคิ้วทั้งเส้นผมเห็นเป็นเส้นๆ ชัดเลย

Pro Video

อ่ะ จบจากภาพนิ่งแล้ว มาดูวิดีโอกันบ้างครับ เจ้า Sony Xperia 1V นี่ไม่ได้โปรเฉพาะภาพนิ่ง แต่ VDO ก็โปรด้วยครับ แต่ถ้าใครอยากถ่าย VDO ง่ายๆ ก็ถ่ายภาพแอป Camera ปกติได้ครับ

สำหรับโหมด Video Pro นั้นค่อนข้างน่าสนใจครับ เพราะมันสามารถปรับเองทุกอย่างได้หมด ปรับได้แบบ Manual เลย ไล่ตั้งแต่ปรับ Speed Shutter ปรับ ISO ปรับ ชดเชยแสง ตั้ง White Balance

ส่วนโฟกัส เลือกเป็น Manual ได้ ช่วยให้สามารถเลือกระยะโฟกัสวัตถุได้ตามใจชอบ เช่นเดียวกัน การซูมก็ค่อยๆ ใช้นิ้วขยับซูมได้เหมือนกับการถ่ายหนังจริงๆ เลยครับ

นอกจากภาพนิ่ง วิดีโอแล้ว เจ้า Sony Xperia 1V ยังมีโหมด Music Pro อีกด้วย ซึ่งจริงๆ มันก็คือโปรแกรมอัดเสียงที่เพิ่มเลเยอร์เสียงเข้าไปได้ ช่วยให้คนทำเพลงได้ผ่านสมาร์ทโฟนเลยครับ แต่ก็จะมีข้อแนะนำว่า ควรเชื่อมต่อด้วยหูฟังที่มีไมค์ดีๆ และนั่นคงเป็นสาเหตุว่า ทำไมเจ้าตัวนี้ถึงมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรมาด้วย

เอาล่ะครับ จบไปแล้วสำหรับจุดเด่นที่สำคัญของเจ้า Sony Xperia 1V ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ผมคงไม่ได้พูดถึงมาก เพราะมันเป็นสิ่งที่สมาร์ทโฟนทั่วไปมีเหมือนกันอยู่แล้วนะครับ

สำหรับรายละเอียดสเปคอื่นๆ ของเจ้า Sony Xperia 1V มาพร้อมจอแสดงผลแบบ 4K OLED ขนาด 6.5 นิ้ว แบบ FHD+ (1644 x 3840) รีเฟรชเรต 120Hz ใช้ CPU Snapdragon® 8 Gen 2 ให้แรมมา 12GB ความจุ 256GB แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไวแบบมีสายที่ 33 W ช่องใส่ซิมไม่ต้องใช้เข็มจิ้มสามารถจิกและงัดออกมาได้เลย

ส่วนค่าตัวอยู่ที่ 48,990 บาท

เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับการ รีวิว Sony Xperia 1V ความสามารถระดับนี้ ถือว่าคุ้มค่ากับราคามั้ย ถ้าถามผมส่วนตัว ผมมองว่าสมาร์ทโฟนแฟล็กชิปในยุคนี้ก็ราคาทะลุ 40,000 บาทกันหลายรุ่น ซึ่งถ้าจะเลือกสมาร์ทโฟนที่มีจุดเด่นเรื่องกล้องที่ใช้งานได้จริงจังก็คงต้องยกให้เจ้าตัวนี้ เหมือนจ่ายที่เดียวจบได้ครบทุกอย่างที่ใช้งานได้ แต่ก็จะไม่เหมาะกับคนที่ชอบกล้องถ่ายภาพง่ายๆ เพราะฟีเจอร์พวกนี้มันทำมาสำหรับโปรจริงๆ

Related Posts

Scroll to Top