รีวิว เทียบชัดๆ vivo V40 จะซื้อตัวไหนดี Pro ดีกว่ามากมั้ย คลิปนี้มีคำตอบ

รีวิว เทียบชัดๆ vivo V40 จะซื้อตัวไหนดี Pro ดีกว่ามากมั้ย คลิปนี้มีคำตอบ

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว vivo V40 Pro และรุ่นไม่ Pro ที่ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อม เลนส์กล้องมาตรฐาน ZEISS Optics แต่ราคาในความจุ RAM และ ROM เท่ากัน ราคาต่างกันพอสมควรเลยครับ ที่ 7,000 บาท เอาเป็นว่าเรามาดูกันดีกว่าว่า ถ้าเรากำลังคิดจะซื้อเจ้าตัวนี้ เราควรจะเลือกตัวไหนที่มันตอบโจทย์เราที่สุด มาดูกันเลยครับ

สำหรับสเปคที่ให้มานั้น ส่วนที่เหมือนกันเลย มีตั้งแต่ หน้าจอ AMOLED 6.78 นิ้ว รองรับ HDR10+ รีเฟรชเรต 120Hz จอสว่างสูงสุดที่ 4500 nits

กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 เรียกว่าเป็นครั้งแรกของ V ซีรีส์ เลยทีเดียวครับ

แบตเตอรี่ให้มา 5500 mAh และรองรับชาร์จไวที่ 80W เท่ากัน ส่วนหัวชาร์จ 80W ก็มีมาให้ในกล่องครับ ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มเอง

เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ให้มาก็เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็น Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity และ compass

สำหรับส่วนที่แตกต่างกันหลักๆ มีแค่ 2 อย่าง คือ ชิปเซ็ต และ กล้อง

มาเริ่มกันที่ ชิปเซ็ต ครับ เจ้า vivo V40 Pro นั้นให้ Mediatek Dimensity 9200+ และให้ GPU Immortalis-G715 MC11 มา ส่วน vivo V40 ธรรมดาใช้ Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 พร้อม GPU Adreno 720

ซึ่งจากผลทดสอบในต่างประเทศ พบว่า Mediatek Dimensity 9200+ นั้นแรงกว่า Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 ประมาณ 20%

ซึ่งตรงนี้เดี๋ยวเรามีทดสอบการเปิด-ปิดแอปฯกัน สักเล็กน้อยกันครับ ให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่า มันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมั้ย

จากคลิปที่ผมทดสอบอยู่ก็จะเห็นชัดเจนครับ ว่า vivo V40 Pro นั้นเร็วกว่าจริงๆ แต่ก็แค่เสี้ยววิเท่านั้นครับ ไม่ได้ขนาดที่เร็วกว่าจนรู้สึกว่าอีกเครื่องช้า

ส่วนการเล่นเกม ผมทดสอบกับเกม ROV ทั้ง 2 เครื่อง ส่วนตัวไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลยครับ ซึ่งตรงนี้ถ้าคนที่ไม่ได้เล่นเกมกินสเปกสูงๆ อย่างพวก Genshin Impact ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งตัว Pro เลยครับ

เอาล่ะครับ มาต่อกันที่การถ่ายรูปกันบ้าง ตรงนี้เป็นส่วนที่มีสเปคต่างกันชัดเจนมากที่สุด ซึ่งมุมมองส่วนตัวผมชื่นชมการออกแบบสเปคให้มันต่างกันเฉพาะในจุดสำคัญนะครับ มันทำให้คนที่มีงบน้อย อย่างน้อยก็ได้ใช้สินค้าคุณภาพที่ใกล้เคียงกันที่สุด

สำหรับเลนส์หลักของทั้ง 2 รุ่นนี้ ให้เลนส์ ZEISS มาที่ 50 MP รูรับแสง f/1.9 ระยะเทียบเท่ากล้อง 24mm ให้ OIS มาด้วย ซึ่งในรุ่นธรรมดาเลนส์ตัวนี้จะถ่าย 2X ได้ด้วยนะครับ

รีวิว เทียบชัดๆ vivo V40 จะซื้อตัวไหนดี Pro ดีกว่ามากมั้ย คลิปนี้มีคำตอบ

เช่นเดียวกัน เลนส์ Ultrawide ก็ให้มาเท่ากันที่ 50 MP รูรับแสง f/2.0 ระยะเทียบเท่ากล้อง 15mm มุมกว้างประมาณ 119 องศา

ส่วนเลนส์ที่มีเฉพาะตัว Pro คือ Telephoto 50 MP รูรับแสง f/1.9 ระยะเทียบเท่ากล้อง 50mm และซูม Optical ได้ที่ 85mm และสูงสุดที่ 4X หรือระยะ 100mm

รีวิว เทียบชัดๆ vivo V40 จะซื้อตัวไหนดี Pro ดีกว่ามากมั้ย คลิปนี้มีคำตอบ

เอาเป็นว่าเราลองมาดูภาพถ่ายกันที่กว่าครับ ว่า 2 ตัวนี้มันถ่ายรูปได้สวยเหมือนกันมั้ย มีจุดไหนบ้างที่เราเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

เริ่มต้นกันที่การถ่ายภาพวิวทั่วไปครับ ถ้าเทียบสีสันของทั้ง 2 ตัว ผมกล้าพูดเลยว่าถ้าไม่มีลายน้ำใต้ภาพนี่แยกไม่ออกเลยครับว่าภาพไหนเป็นของตัวไหน เพราะมันได้ภาพออกมาเหมือนกันมากๆ ครับ ไม่ว่าจะสีท้องฟ้า สีต้นไม้ ลองมาดูอีกภาพกันครับ เห็นมั้ยครับว่าแยกไม่ออกเลย

รีวิว เทียบชัดๆ vivo V40 จะซื้อตัวไหนดี Pro ดีกว่ามากมั้ย คลิปนี้มีคำตอบ
รีวิว เทียบชัดๆ vivo V40 จะซื้อตัวไหนดี Pro ดีกว่ามากมั้ย คลิปนี้มีคำตอบ

เปลี่ยนมาดูการถ่ายของกินกันบ้างครับ ภาพแรกจะเห็นว่าสีของกาแฟในรุ่น Pro มันเข้มกว่าเล็กน้อย ส่วนการเก็บรายละเอียดไม่ต่างกันเลยครับ หรือจะรูปเค้ก หรือว่าอาหารเช้า ที่มีไข่ดาว เบค่อน ก็ยังเหมือนกันครับ

หรือจะถ่าย Portrait ก็ยังแทบไม่ต่างกันเช่นเคยครับ ส่วนโทนสีผิว ต้องบอกเลยว่าขนาดผมปิดโหมดบิวตี้หมดแล้ว หน้ายังใสขนาดนี้เลย ถ้าสาวๆ คนไหนชอบภาพแบบหน้าขาวสวยล่ะก็ หยิบเจ้าตัวนี้ไปถ่ายไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

และก็อย่างที่บอกไปครับว่าข้อได้เปรียบของตัว Pro คือการถ่ายได้ถึง 4X ก็จะทำให้เราถ่ายครอปเข้าไปได้โดยไม่ต้องขยับมือเข้าไป ซึ่งบางจุดมันก็มีข้อจำกัดในการเข้าไปใกล้ตัวแบบที่เราต้องการถ่ายครับ นั่นทำให้ 4X มันมีประโยชน์มากๆ

แต่ถ้าถามว่าส่วนที่ต่างกันแล้วแยกออกมีมั้ย มีครับ ถ้าลองถ่ายย้อนแสงดูจะเห็นชัดเลยว่าแสงที่ได้ออกมากันคนละโทนเลย แต่โดยรวมตัว Pro จัดการเรื่องแสงได้ดีกว่าครับ

ส่วนการใช้ Aura Light Portrait ที่เป็นอีกจุดขาย ก็มาดูภาพกันครับ ว่ามันช่วยการถ่ายภาพในสภาวะมืดสนิทได้ดีขนาดไหน ซึ่งก็เห็นกันได้ชัดเจนครับ ว่าฝั่งที่ปิดไฟมืดสนิทมันถ่าย Portrait ไม่ได้แน่ๆ แต่พอมีแสงเข้ามาช่วย ความคมชัดก็มาเต็มครับ หรือใช้ช่วยในการถ่ายย้อนแสงก็ได้ครับ

ส่วนฟีเจอร์ที่ให้มาในโหมด Portrait ก็น่าสนใจครับ คือเราสามารถเลือกทรงของ Bokeh ที่ชอบได้ก่อนถ่ายได้เลย

เอาล่ะครับ จบไปแล้วกับการถ่ายภาพนิ่ง มาดูการทำงานของ Video กันบ้างครับ ซึ่งความสามารถในการถ่ายนั้นได้สูงสุดที่ 4K 60fps สำหรับตัว Pro และ 30fps สำหรับรุ่นธรรมดา แต่ในการทดสอบนี้ผมใช้แค่ 1080p 60fps ลองมาดูกันชัดๆ เลยครับว่า มันต่างกันมั้ย แล้วตัดสินใจกันเองเลยนะครับ

กล้องหลังก็ประมาณนี้ครับ ลองมาดูสเปคกล้องหน้ากันอีกนิด ทั้ง 2 รุ่นให้มาที่ 50 MP รูรับแสง f/2.0 ระยะเทียบเท่ากล้อง 21mm มี Auto Focus และรองรับ HDR สำหรับ Video ตัว Pro ถ่ายได้สูงสุดที่ 4K 60fps และรุ่นธรรมดาได้ 30fps

สำหรับภาพจากกล้องหน้า คงพูดอะไรได้ไม่มากไปกว่า มันเก็บรายละเอียดหมดจริงๆ ยิ่งปิดทุกโหมดบิวตี้ออกไป ยิ่งชัดทุกรูขุมขน

ก็ประมาณนี้ครับ เป็นยังไงกันบ้างครับกับการ รีวิว เทียบชัดๆ vivo V40 ทั้งรุ่น Pro และตัวธรรมดา สำหรับราคา ในรุ่นความจุเท่ากัน คือ RAM 12GB ROM 512GB ตัว Pro เปิดมาที่ 24,999 บาท ส่วนรุ่นธรรมดา เปิดมาที่ 17,999 บาท ต่างกัน 7,000 บาทถ้วน แต่ ถ้าเราไม่ต้องการ ROM มากขนาดนั้น ก็มีทางเลือกครับ ในรุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคา 15,999 บาท เองครับ ประหยัดจากรุ่น Pro ไป 9,000 บาท

เอาเป็นว่า สรุป ควรจะซื้อรุ่นไหนดี ถ้าคุณแค่อยากได้คุณภาพแบบ ZEISS เน้นใช้กล้องไม่เกิน 2X เพราะไม่รู้จะซูมถ่ายใคร เล่นเกมบ้าง เล่นโซเชียลบ้าง ส่วนตัวผมมองว่าไม่ต้องไปถึง Pro ครับ เซฟเงินไปซื้ออุปกรณ์เสริม เช่น หูฟังไร้สายดีๆ สักตัวครับ แต่ถ้าใครที่อยากไปสุดในรุ่นนี้ มั่นใจว่าใช้คุ้มทั้งกล้อง ทั้งเกม ก็แนะนำครับ จบที่ Pro ไปเลย รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน

แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นอย่างไร ก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้ครับ สำหรับวันนี้ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

แกะกล่อง PICO 4 Ultra พร้อมเซ็นเซอร์ติดขา Motion Trackers

Scroll to Top