รีวิว vivo X200 ภาพดี ไม่ต้องไปถึงโปร เซฟเงินได้ 1 หมื่น

รีวิว vivo X200 ภาพดี ไม่ต้องไปถึงโปร เซฟเงินได้ 1 หมื่น

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว vivo X200 (ไม่ Pro) ในเรื่องของภาพถ่ายล้วนๆ แบบให้ดูรูปที่ผมไปถ่ายมากันแบบฉ่ำๆ เลย เพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับคนที่กำลังคิดว่าจะซื้อรุ่นนี้ว่าจะหยุดอยู่แค่นี้หรือไปสุดทางดี มาดูกันเลยครับ

เอาล่ะครับ ก่อนจะไปดูความสามารถของกล้อง เรามาเริ่มต้นกันที่ความต่างในด้านของสเปคกันก่อน

สำหรับสเปคที่แตกต่างและมีผลกับการใช้งานที่ชัดเจนจะมีไม่มากเท่าไหร่ครับ ตั้งแต่

-หน้าจอเล็กกว่า 0.11 นิ้ว

-RAM 12GB ROM 256GB (ตัว Pro ให้มา 16/512GB)

-Periscope Telephoto ให้มาแค่ 50 MP (ตัว Pro ให้มา 200 MP)
-Video กล้องหลังถ่ายได้สูงสุดแค่ 4K 60fps และซูมได้สูงสุดแค่ 15X (ตัว Pro ถ่ายได้ 8K ซูมได้ 30X)

-ไม่รองรับ Wireless Charging

สำหรับสเปคทั้งหมดของเจ้าตัวนี้

ตัวเครื่อง

-หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2800 × 1260 รีเฟรชเรต 120 Hz ความสว่างสูงสุด 4500 nits

-การทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69

ประสิทธิภาพ

-ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 9400 (3 nm)

-GPU Immortalis-G925

-RAM 12GB (ขยายได้ 12GB) ROM 256GB

-แบตเตอรี่ 5800mAh ชาร์จไว 90W

กล้องหลัง

-กล้องหลัก 50 MP รูรับแสง f/1.57
-Ultrawide 50 MP รูรับแสง f/2.0
-Periscope Telephoto 50 MP รูรับแสง f/2.57 ซูม Optical ได้สูงสุด 3X

-ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K@30/60fps

กล้องหน้า

-32 MP รูรับแสง f/2.0

ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K@30/60fps

รีวิว vivo X200 กับภาพถ่าย

สำหรับสเปคที่แตกต่างกันก็ประมาณนี้ เอาล่ะครับ เรามาดูรูปถ่ายของเจ้าตัวนี้กันดีกว่า จะได้รู้กันไปเลยว่าต้องซื้อ Pro มั้ย

เรามาเริ่มต้นกันที่การถ่ายภาพวิวทั่วไปกันครับ

ภาพนี้ผมตั้งใจถ่ายให้กึ่งๆ ย้อนแสง คือหลบพระอาทิตย์ที่อยู่ทางขวาของภาพมานิดนึง ทำให้เห็นว่าด้านขวาบนของภาพจะมีอาการฟุ้งเล็กๆ แต่หากดูรายละเอียดโดยรวมจะเห็นว่าตัวกล้องจัดการแสงได้ดีมากๆ ทำให้เราได้เห็นโทนสีที่ตัดกัน ทั้งสีเขียวเข้มของต้นไม้ทางด้านขวาของภาพ สีเขียวอ่อนและสีเหลืองของมุมซ้ายล่าง สีท้องฟ้า ที่ฟ้าแบบธรรมชาติ และสีเขียวของน้ำ 

รีวิว vivo X200 ภาพดี ไม่ต้องไปถึงโปร เซฟเงินได้ 1 หมื่น

รูปต่อมาให้ดูการถ่ายตามแสง ก็จะเห็นว่าสีท้องฟ้าจัดจ้านกว่าภาพแรกแบบเห็นได้ชัด ส่วนการตัดโทนของฟ้า เขียว เหลือง และโทนสีอื่นๆ ก็ออกมาชัดเจนกว่ารูปแรก

รีวิว vivo X200 ภาพดี ไม่ต้องไปถึงโปร เซฟเงินได้ 1 หมื่น

ลองมาดูกันอีกภาพครับ ซึ่งรูปนี้ก็เช่นกัน ผมให้กล้องมันจัดการเรื่องโฟกัสและแสงเองเลย ยอมรับเลยว่าพลังของ ZEISS กับการถ่ายภาพในที่แสงปกติมันทำได้ดีจริงๆ

รีวิว vivo X200 ภาพดี ไม่ต้องไปถึงโปร เซฟเงินได้ 1 หมื่น

มาต่อกันที่การถ่ายแสงช่วงเย็นกันบ้าง ซึ่ง vivo ถ่ายทอดแสงตอนเย็นได้ออกมาสวยงามจริงๆ ซึ่งผมถ่ายโดยไม่ได้ใส่ฟิลเตอร์อะไรเลยนะครับ

รีวิว vivo X200 ภาพดี ไม่ต้องไปถึงโปร เซฟเงินได้ 1 หมื่น

สำหรับภาพถ่ายตอนเย็น โดยรวม ในมุมผมถือว่าเจ้าตัวนี้ช่วยให้เราได้ภาพออกมาประทับใจ ถ่ายง่ายๆ โดยไม่ต้องมานั่งใส่ฟิลเตอร์อะไรเลยครับ

รีวิว vivo X200 ภาพดี ไม่ต้องไปถึงโปร เซฟเงินได้ 1 หมื่น

เช่นเดียวกัน หยิบมาถ่ายตอนกลางคืนก็ไม่มีปัญหา โฟกัสติดตลอด ได้ภาพที่คมชัด ลองซูมเข้าไปดูกันชัดๆ ได้เลย คำว่า “อาคารไปรษณีย์กลาง” นี่คมชัดเหมือนถ่ายตอนกลางวันเลย

ลองมาดูการถ่ายวิวแบบหน้าชัดหลังเบลอกันบ้าง ถ้าใครเคยถ่ายภาพแนวๆ นี้บ่อยๆ จะพบว่าบางทีเราต้องกดสลับไปใช้โหมด Portrait ช่วยให้เบลอหลัง แต่กับเจ้าตัวนี้ ใช้โหมด Photo ถ่ายได้เลยครับ ตัวกล้องมันเบลอหลังแบบเป็นธรรมชาติให้เลย เพราะถ้าเราไปใช้โหมด Portrait บางทีมันจะเบลอมากเกินไปจนขาดความเป็นธรรมชาติครับ

สำหรับการถ่ายแบบ 10X อันนี้ต้องยอมรับเลยครับว่ามันยังหลงเหลือความคมชัดอยู่มากทีเดียว อย่างภาพนี้จะเห็นรายละเอียดของรูปแมวด้านหลังแบบครบถ้วน ภาพต่อมาลองดูรายละเอียดของนกตัวนี้ใกล้ๆ ครับ ยังเห็นลายเส้นขนนกได้ชัดเจน แต่ก็แน่นอนว่า ถ้ามันบินอยู่แบบภาพนี้ ก็จับให้มันชัดยากอยู่แล้วครับ แต่ในภาพนี้ก็จะเห็นว่าสีสันโดยรวมของภาพนี้ออกมาดีจริงๆ หรือจะถ่าย 10X ยามเย็นก็ไม่มีปัญหา ได้ภาพชัดแน่นอน รวมถึงจุดที่เจ้าตัวนี้เก่งมากๆ ก็คือการถ่ายพระอาทิตย์ยามเช้าและเย็น

กระโดดมาดู 100X กันสักเล็กน้อย ซึ่งเอาจริงๆ ปกติผมเป็นคนที่ไม่ได้ใช้กล้องมาถ่ายซูมขนาดนี้ แต่กับสายติ่ง เขาซูมคอนกันเป็นปกติ ก็เลยมาลองให้เห็นกันชัดๆ ความคมชัดก็ได้ประมาณนี้ครับ ซึ่งผมก็ถ่ายในห้องตัวเองที่แสงไม่ได้มากมายอะไรตัวกล้องมันยังเก็บรายละเอียดได้ขนาดนี้เลยครับ

Portrait

มาดูการถ่ายภาพบุคคลกันบ้างครับ สำหรับมือถือค่ายนี้ เขาขายด้านการถ่ายภาพ Portrait มาสักระยะแล้ว ทั้งตระกูล X และรุ่นน้องอย่าง V ใครที่ชื่นชอบภาพสไตล์สีผิวเนียน ภาพแบบใสๆ และตัวแบบคมๆ ตัวนี้ตอบโจทย์แบบ 100% ครับ

ส่วน Bokeh ก็กลมสวยครับ ลองดูรูปน้องแคร์แบร์ที่ผมตั้งใจถ่ายให้เห็นการทำงานของ Bokeh  แบบชัดๆ แต่ถ้าใครไม่ชอบทรงกลมแบบนี้ เขาก็มี Bokeh ให้เลือกอีก 7 รูปแบบ

ถ่ายภาพ Indoor

ลองมาดูการถ่ายภาพในอาคารกันบ้างครับ ไม่ว่าจะแสงมากหรือแสงน้อย เจ้าตัวนี้ก็ให้ภาพออกมาคมชัด สีสด และเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีจริงๆ ลองขยายภาพเข้าไปดูใกล้ๆ จะเห็นลายเส้นของภาพวาดแบบชัดๆ ใครที่ชอบเดินชมงานศิลปะแล้วมักจะถ่ายภาพเก็บไว้ชื่นชมความสวยงาม สมาร์ทโฟนตัวนี้ตอบโจทย์ได้แบบ 100%

อาหาร

เช่นเดียวกัน การเก็บรายละเอียดของอาหารก็ทำได้ดี สีสันออกมาดูน่าทานมากๆ ลองดูดีเทลของกุ้งแม่น้ำใกล้ๆ กันเลยครับ

การเก็บรายละเอียดของวัตถุชิ้นเล็ก

ไม่เพียงแค่การถ่ายรูปทั่วไป แต่กับวัตถุชิ้นเล็กๆ เจ้าตัวนี้ก็ทำได้ดีครับ ลองดูลูกแก้วที่ผมเปิดไฟไว้ครับ เจ้าตัวนี้หากเราค่อยๆ ซูมถ่ายเข้าไป ก็จะเห็นเลยว่าตั้งแต่ 1X 2X 3X 5X 10X ไปจนถึง 20X รายละเอียดของมันยังคมชัดเหมือนเดิม หรือถ้าจะเทียบให้เห็นชัดๆ ว่าเจ้าตัวนี้มันเก็บดีเทลได้ดีขนาดไหน ลองดู 2 ภาพนี้ ที่ผมถ่ายเทียบกับแฟล็กชิปรุ่นนึงครับ

Video

มาดูด้านการถ่าย Video กันบ้างครับ ผมเองเคยจับมือถือ vivo มาหลายตัว ต้องบอกเลยว่าในครั้งนี้ความสามารถในการถ่าย Video มันดีขึ้นมากจริงๆ หากเราค่อยๆ แพนกล้องไปช้าๆ จะเห็นว่าเฟรมมันเนียนมากๆ ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลยแม้แต่น้อย แถมสีสันก็ออกมาสวยงาม รวมถึงการเก็บเสียงก็ทำได้ขึ้นกว่าในรุ่นก่อนๆ

แต่ถ้าเป็นการเดินถ่าย แน่นอนว่าการที่จะมีเฟรมกระตุกบ้างถือเป็นเรื่องปกติ เพราะสมาร์ทโฟนแฟล็กชิปทุกรุ่นในตลาดก็จะมีเฟรมกระตุกเช่นกัน 

ส่วนการแตะเพื่อโฟกัส ก็ทำได้ดีครับ ถือว่าไวมากและไม่เพี้ยน ใครจะเอาไปทำคอนเทนต์เหมือนในหนังก็ถือว่าตอบโจทย์เลยครับ

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับการ รีวิว vivo X200 กับภาพถ่ายที่ผมได้เอาไปลองถ่ายมา ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ผมมองว่าถ้าคุณกำลังคิดว่าจะซื้อแต่ไม่รู้ว่าจะพอแค่นี้ หรือจะไป Pro ดี ผมแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องไปจบครับ เพราะด้วยราคา 29,999 บาท ถูกกว่าตัวท็อป 10,000 บาท แถมประสิทธิภาพแทบจะไม่ได้ต่างกันเลย เก็บส่วนต่างไปลงทุนกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาช่วยการทำคอนเทนต์ดีกว่าครับ อีกส่วนคือยุคนี้สมาร์ทโฟนพัฒนาด้านกล้องไปไวมากๆ ปี 2025 เราอาจจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ มาจากค่ายนี้อีก และเราอาจจะอยากเปลี่ยนอีกครั้งก็ได้ครับ

แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นยังไง ก็สามารถคอมเมนต์มาพูดคุยกันได้นะครับ สำหรับวันนี้ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

รีวิว Samsung Galaxy S24 FE ผ่านมา 3 เดือน ยังน่าซื้ออยู่มั้ย

Scroll to Top