Xiaomi Smart Band 8 มาเล่าให้ฟัง หลังใช้มา 2 สัปดาห์

Xiaomi Smart Band 8 มาเล่าให้ฟัง หลังใช้มา 2 สัปดาห์

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมาเล่าประสบการณ์หลังใช้เจ้า Xiaomi Smart Band 8 มาประมาณ 2 สัปดาห์นิดๆ ให้ฟังกันว่าชอบ ไม่ชอบอะไร เผื่อว่าใครที่กำลังมองหา Smart Band มาใส่ข้อมือสักเรือนนึงจะได้ตัดสินใจได้ว่าควรจะมีเจ้าตัวนี้อยู่ในลิสตัวเลือกมั้ย

ตัวเครื่องรุ่นนี้มี 2 สี คือ สีดำ ที่ผมกำลังรีวิวอยู่นี่ และอีกสีนึงคือ สีทอง ตัวเรือนใช้วัสดุเป็น เมทัลลิค ซึ่งสัมผัสดีมากๆ ดูแข็งแรง และการใช้เมทัลลิคทำให้มันดูแพงขึ้นมาทันที

สำหรับหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 1.62 นิ้ว สีสันถือว่าสดใสอยู่นะครับ Refresh rate 60 Hz ความสว่างสูงสุดได้ 600 nits ผมไปทดลองเดินกลางแดดมา ก็ยังถือว่ามองเห็นอยู่ครับ

แบตเตอรี่ให้มา 190 มิลลิแอม ใช้งานได้นานสูงสุด 16 วัน แต่เท่าที่ผมใช้งานจริงๆ เชื่อมต่อตลอด ออกไปวิ่งมา 1 วัน ใส่นอนบ้าง ก็อยู่ได้ประมาณ 7-8 วันครับ ถ้าชาร์จเต็มไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็ไม่ต้องกังวลเท่าไหร่

รีวิว Xiaomi 13T 5G ภาพสุดแจ่มด้วย Leica ในราคาหมื่นกลาง

สาย ตรงนี้ผมมองว่า Xiaomi ทำได้ดีครับ เพราะมีสายให้เลือกเยอะมาก สายแฟชั่นก็สามารถหาซื้อพวกสายโลหะ สายหนัง หรือสายผ้า มาใส่แทนก็จะได้อีกอารมณ์นึงเลยครับ

แต่ส่วนตัวผมก็ยังไม่ได้ซื้อสายไหนมาใช้นะครับ อยากลองสายที่มากับตัวเครื่องก่อน และด้วยความที่ใส่ออกกำลังกายด้วย สายซิลิโคนที่ให้มาจะเหมาะที่สุด

นอกจากนี้ยังมีสายห้อยคอ Necklace mode และเปลี่ยนจากใส่ข้อมืไปติดรองเท้าวิ่งก็ได้ เขาเรียกว่าโหมด Pebble ทำให้แทร็กการวิ่งได้ดีกว่าใส่ที่ข้อมือ ซึ่งก็ตามคอนเซ็ปต์ที่มันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยการออกกำลังกาย เพราะมันให้โหมดออกกำลังกายมาถึง 150 โหมด แต่เอาจริงๆ ก็ใช้ไม่หมดหรอกครับ

สำหรับสายว่ายน้ำก็ไม่ต้องกังวล เพราะกันน้ำได้ 5 ATM หรือ 50 เมตร แต่ไม่ควรใส่ไปอาบน้ำอุ่น น้ำร้อน หรือไปแช่ออนเซ็น ใส่เข้าซาวน่า แบบนี้ไม่ได้นะครับ เพราะมันกันน้ำแต่ไม่ได้กันความร้อนจากน้ำ

สำหรับความไหลลื่นของการใช้งานหน้าจอ ตรงที่ถือว่าทำได้ดีที่เดียวครับ ลองปัดไปปัดมาให้ดูเลยครับ

สำหรับการปัดซ้ายขวา ก็จะแทร็กข้อมูลพวกการนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจ ถึงแม้มันจะไม่ได้ปรับตัวเลขแบบเรียลไทม์ทุกวินาที แต่ก็ถือว่าได้ข้อมูลการเต้นของหัวใจล่าสุด ซึ่งดีมากๆ ครับ

ต่อไปก็เป็นการ เช็คสภาพอากาศ ควบคุมเพลง อันนี้หลายคนที่ชอบออกกำลังกายไปฟังเพลงไปน่าจะชอบ เพราะถึงแม้จะกดผ่านหูฟังไร้สายได้ แต่เวลาไปแตะที่หูบางคนอาจจะกลัวหลุด แต่พอมาแตะกับนาฬิกามันง่ายกว่า และก็เห็นข้อมูลเพลงที่เล่นด้วย

อีกหน้าก็เป็นพวก ฟีเจอร์ปิดการรบกวน ค้นหาโทรศัพท์ ซึ่งเป็นอีกฟังก์ชั่นนึงที่ผมชอบ มาทั้งเสียงทั้งสั่น หาเจอแน่นอนถ้าอยู่ในระยะ ส่วนไอคอนสุดท้ายก็เป็นการตั้งค่าต่างๆ ใครที่ซื้อมาก็ลองกดไล่ดูที่ละหัวข้อได้นะครับ

ซึ่งการตั้งค่าอย่างนึงที่ผมอยากจะแนะนำให้ใช้คือ Always on Display ก็จะช่วยให้เวลาอยากดูแค่เวลาก็ไม่ต้องไปกดให้หน้าจอมันสว่างขึ้นมา แถมยังตั้งเวลาเปิดใช้งานได้ด้วยว่าอยากให้มันแสดงผลตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง เวลาใส่นอนจะได้ไม่มีแสงจากหน้าจอมากวน

ถ้าปัดจากบนลงล่าง ก็จะเป็นการแสดงผล Notification ต่างๆ ซึ่งตรงนี้แล้วแต่ชอบนะครับ ผมลองตั้งไว้ที่การโทรกับ SMS มีวันนึงใส่นอนแล้วมีคนโทรมาตอนเช้าก็ตกใจ กดตัดสายไปเฉยครับ เพราะถ้าจะรับเราต้องเดินมารับสายที่โทรศัพท์นะครับ มันคุยผ่าน Mi Band ไม่ได้

ถ้าปัดจากล่างขึ้นบน ก็จะเป็นพวกฟีเจอร์ต่างๆ ใครที่จะออกกำลังกาย ฟังก์ชันก็จะอยู่ในนี้แหละครับ และก็ยังสามารถดู Stat ของวันล่าสุดได้ แต่ถ้าอยากดูเต็มๆ ก็จะต้องไปดูผ่าน แอปพลิเคชัน Mi Fitness ก็จะดีกว่าครับ

สำหรับคนที่เคยใช้ Mi Fitness แล้วก็ข้ามไปได้เลยนะครับ ส่วนคนที่ยังไม่เคยใช้ก็ มาครับ มาลองดูกันไปทีละหน้าเลยว่าแอปมันทำอะไรได้บ้าง

ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าแอปพลิเคชันไม่โชว์ข้อมูลหลายอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้า Xiaomi Smart Band 8 มันทำได้ทุกอย่างตามที่เห็นนะครับ

ส่วนสุดท้ายที่ผมชอบของเจ้าตัวนี้คือ มันชาร์จไวมากครับ แค่ประมาณ 10 นาทีนี่ก็เอาไปใส่เล่นต่อได้ 3-4 วันสบายๆ แต่ส่วนที่ยังขัดใจ คือมันยังต้องพกสมาร์ทโฟนติดตัวไว้เวลาถ้าจะใช้ GPS ช่วยแทร็กระยะทาง ซึ่งถ้าเป็นพวกนาฬิกามันจะมี GPS ในตัว และมา Sync ข้อมูลทีหลังได้

แต่ก็นะ ราคาเขาก็ขายแค่ 1,490 บาท ทำได้เท่านี้ก็ต้องถือว่า ของถูกและดีมีในโลกแล้ว

แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นยังไงก็คอมเมนต์บอกเราได้นะครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่ในคลิปหน้า วันนี้ผมแสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

Scroll to Top