รีวิว Xperia 10 VI สมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อครีเอเตอร์ยุคใหม่

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว Xperia 10 VI จากค่าย Sony หลังจากครั้งก่อนเราทำคลิปแกะกล่องกันไปแล้วครับ ซึ่งสเปคคร่าวๆ ผมได้เล่าไปแล้วในคลิปแกะกล่องก็ลองไปดูกันได้นะครับ

โดยรอบนี้จะมาลงลึกในประเด็นที่เป็นจุดขายของเจ้าตัวนี้เป็นหลัก คือฟีเจอร์ Video Creator ที่เหมือนการย่อโปรแกรมตัดต่อมาไว้ที่มือถือ ด้านการถ่ายภาพ รวมถึงแบตเตอรี่ที่ว่าใช้งานได้ 2 วัน มันจริงแค่ไหน มาดูกันเลยครับ

เรามาเริ่มต้นกันที่โปรแกรม Video Creator กันก่อนเลยครับ ซึ่งข้อดีของการมีโปรแกรมตัดต่อให้มาในตัวเครื่องก็ต้องถือว่าเป็นข้อดีอย่างนึงครับ คือเราสามารถทำงานออฟไลน์ได้ และเราสามารถเซฟโปรเจกต์เอาไว้และมาทำต่อทีหลังได้

เริ่มต้นการใช้งานก็ง่ายๆ ครับ คลิกที่ New Project เลย แต่จากที่เห็นหน้าจอนี่จะเห็นว่าผมมีตัดต่อคลิปแมวเอาไว้นะครับ ซึ่งถ้าจะทำต่อ ก็แค่แตะเข้าไปทำต่อได้เลย

หลังจากกด New Project ก็จะเห็นไฟล์ที่อยู่ในเครื่องโชว์ออกมาทั้งหมด ซึ่งเราสามารถฟิลเตอร์เฉพาะคลิป หรือ ภาพนิ่ง ก็ได้

จากนั้นในขั้นตอนตัดต่อ เราสามารถจะเลือก Customize Edit คือการตัดต่อเอง หรือ Auto Edit ก็ได้

การ Customize เองก็เหมือนการใช้โปรแกรมตัดต่อทั่วไปครับ คือเราเลือกใส่เพลงเอง ซึ่งทาง Sony เขาก็มี Track มาให้ส่วนนึง แปะข้อความ (Text) ได้ตามต้องการ ซึ่งก็มี Font กับ สี ให้เลือก

เราสามารถปรับ Speed ของคลิปได้  ปรับระดับเสียงที่มากับคลิปได้

ต่อมาเป็น Filter ที่เบื้องต้นมีให้เลือก 5 แบบ สามารถปรับแต่งแสงสีเพิ่มต่อได้ และสุดท้ายคือการ Rotate หรือการหมุนเผื่อใครที่ถ่ายไฟล์มาผิดฝั่ง

ซึ่งเจ้าตัวนี้รองรับการตัด VDO ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง หรือจะตัดแบบ 1:1 ก็ได้

สุดท้ายคือการเลือก Export ไฟล์ ซึ่งสามารถเลือก Export ได้สูงสุดที่ 1080P 30fps ถึงแม้ไฟล์ที่ถ่ายมาจะคุณภาพสูงกว่านั้นก็ตาม

แต่ถ้าใครจะเอาง่ายเลย จริงๆ ผมแนะนำให้ใช้ Auto Edit ไปก่อนเลยครับ ซึ่งเราก็สามารถเลือกความยาวที่ต้องการได้ตั้งแต่ 15 30 60 180 วินาที (น่าจะมี 90 วินาทีมาให้ด้วย) หรือจะเลือกแบบยาวเท่าไฟล์ที่เราใส่เข้าไปก็ได้

ซึ่งใครที่อยากได้ไฟล์ที่เวลาพอดีกับที่ต้องการ ระบบก็ให้กดเลือก Speed up ได้ เช่นถ้าเราใส่ไฟล์ไป 1 นาที แต่อยากได้ไฟล์ 30 วิ มันก็จะไปเร่งความเร็วคลิปให้เป็น 2X 

ส่วนเสียงก็ให้ระบบมัน Random ได้เลย หรือจะเข้าไปเลือกเองก็ได้ ซึ่งก็มี 12 Track ให้ใช้ได้

ถ้าไม่ถูกใจ ก็กด Auto Edit ใหม่อีกรอบ จนกว่าจะได้เพลงที่ถูกใจได้ครับ

อีกนิดนึงครับ ตรง Timeline เราสามารถถ่างออกเพื่อดูภาพรวมการตัดต่อได้ง่ายขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าใครถนัดยังไงครับ

ตัว Video Creator ก็ประมาณนี้ครับ ส่วนตัวผมมองว่าเขาออกแบบมาให้ใช้ง่ายๆ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเช่น การใส่ทำนองเพลงที่ยังมีตัวเลือกน้อย และคนที่เล่นโซเชียลมีเดียก็มักจะใช้เพลงจากในแพลตฟอร์มมากกว่า

แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นครับ ข้อดีของมันคือ เราสามารถตัดงานแบบออฟไลน์ได้ กลับมาทำงานต่อเมื่อไหร่ก็ได้ หลังจากทำเสร็จแล้วค่อยเอาไปโยนขึ้นแพลตฟอร์ม เลือกเพลง แล้วโพสต์ได้เลย ซึ่งก็ถือว่าประหยัดอินเทอร์เน็ตในช่วงตัดต่อได้ดีทีเดียว

จบไปแล้วนะครับ สำหรับโปรแกรมตัดต่อที่เป็นไฮไลต์ของเจ้าตัวนี้ ต่อไปมาดูเรื่องแบตเตอรี่กันสักเล็กน้อยครับ คือเจ้าตัวนี้ให้แบตมา 5000 mAh ซึ่งก็เท่าๆ กับสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่ที่น่าสนใจคือ ตัวเครื่องหนักแค่ 164 กรัม เท่านั้น ซึ่งถือว่าเขาทำน้ำหนักตัวเครื่องได้ดีที่เดียว ส่วนเรื่องที่ว่าจะใช้ได้ 2 วันจริงมั้ย อันนี้ผมลองเล่น ROV ไปประมาณ 1 ชม. นิดๆ แบตลดไป 16-17% ครับ หมายความว่าคุณใช้งานหนัก แบตมันก็หมดเร็วเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไปนั่นแหละ

แต่ถ้าคุณอยากจะให้เครื่องเปิดตลอด ไม่เล่นเกมหรือดูคลิปยาวๆ และอยากให้มันอยู่ได้ 2 วัน อันนี้ง่ายๆ เลยครับ เขาใส่โหมด Stamina มาให้ในเมนูเลย แค่ปัดหน้าจอลงมาก็จะเห็นเมนูนี้เลยครับ ซึ่งถ้าเลือกเปิดระบบก็จะจำกัดการทำงานของตัวเครื่องมากขึ้น ตั้งแต่ตั้งเป็น Dark Theme จำกัดการทำงานเบื้องหลัง และดีเลย์พวก Noti ต่างๆ คือการจำกัดทรัพยากรเครื่องที่กินไฟมากๆ ออกให้หมดนั่นเอง

มาส่องภาพถ่ายกันบ้าง

เอาล่ะครับ มาต่อกันที่ส่วนสุดท้ายคือ กล้อง ซึ่งหากใครใช้ Xperia 10 V ก็อาจจะงงนิดหน่อยว่า ทำไมกล้องหายไปตึวนึง ใช่ครับ เขาตัดกล้อง Telephoto ออกไป และให้ใช้ 2X จากเลนส์หลัก 48MP แทน ส่วนถ้าจะถ่าย Bokeh ก็ได้ระยะ Wide ระยะเดียวครับ

ส่วนการชดเชยแสง การปรับเบลอ การปรับโทนสี ต้องบอกว่า UI ของค่ายนี้ค่อนข้างเฉพาะตัวครับ คือเหมือนย่อการปรับจากกล้องมามากกว่า ใครที่ใช้คือถือค่ายอื่นมาอาจจะต้องปรับตัวเล็กน้อยครับ

เรื่องโทนสีภาพบุคคล ใครที่ชอบสไตล์ภาพแบบ Sony คือสีผิวขาวใส ไม่ติดเหลือง ก็คงจะชอบใจกับภาพที่ออกมาครับ

ส่วนการถ่ายวิวทั่วไป ก็ถือว่าทำได้ดีครับ เก็บรายละเอียดภาพได้ดี การปรับแสงออโต้ฉลาดพอสมควร และได้โทนสีภาพที่ดูสมจริง

ภาพนิ่งโดยรวม สรุปได้เลยครับว่า ถ้ามีงบหมื่นกลางๆ อยากได้มือถือที่ถ่ายรูปฟีลกล้อง ก็ตัวนี้เลยครับ

ด้านงาน VDO พอมี OIS มาให้ด้วยก็ใจชื้นครับ คลิปเนียนมากๆ โดยเฉพาะ FHD แบบ 60fps แต่ถ้าจะใช้ 4K ผมแนะนำว่าเน้นตั้งถ่ายนิ่งๆ ดีกว่า เพราะเวลาแพนกล้องมันแอบมีกระตุกบ้างเล็กน้อย ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ความเร็วของชิปเซ็ตหรือ RAM ไม่พอหรือเปล่า ส่วนเสียงจาก VDO เป็นยังไง ลองฟังจากคลิปตัวอย่างที่ผมถ่ายได้เลยครับ

สุดท้ายแถมให้เล็กน้อย เรื่องระบบเสียง เจ้าตัวนี้ให้ลำโพง Stereo มาถึงแม้เราจะเห็นแค่รูเล็กๆ แต่เสียงดังและชัดมากๆ แถมยังปรับระดับเสียงได้ประมาณ 30 ระดับ คือมากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปเท่าตัวเลยครับ

ก็ประมาณนี้ครับ สำหรับการ รีวิว Xperia 10 VI ส่วนตัวผมมองว่าเจ้าตัวนี้มันทำมาเพื่อสาวก Sony โดยแท้จริงๆ ครับ ตั้งแต่การออกแบบตัวเครื่องที่เรียบ แต่ดูหรู การออกแบบฟีเจอร์กล้องที่คนใช้กล้อง Sony มาจะเข้าใจได้ทันที รวมถึงโปรแกรมสำหรับตัดต่อไฟล์งานก็ตอบโจทย์คนทำโซเชียล ซึ่ง ราคา 16,990 บาท ก็คงไม่เป็นอุปสรรคถ้าใจเราชอบครับ

แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นอย่างไรก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้ครับ สำหรับวันนี้ ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

–รีวิว POCO M6 กล้อง 108MP ราคา 5 พันนิดๆ

• Facebook
• X
• Line