วันนี้เราจะมาคุยกันว่า ปี 2024 นี้ สมาร์ทโฟน เขาจะแข่งขันอะไรกัน เพราะที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายคนคงจะเริ่มเบื่อ เพราะสมาร์ทโฟนฝั่งแอนดรอยด์มีแต่การแข่งขันกันที่เรื่องหน้าจอใหญ่ คมชัด เครื่องแรงเล่นเกมดีขึ้น กล้องดีขึ้น ถ่ายรูปสวยได้ง่ายขึ้น
ส่วนในจีนนั้นเขาแข่งจอพับกันด้วย แต่ก็ทำขายแค่ในจีน เท่าที่ได้ยินมาคือเขาต้องการฟัง feedback ของผู้ใช้ในจีนเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นก่อนจะเอาออกมาขายในตลาดโลก ในไทยก็จะมี 3 แบรนด์ที่เข้ามาทำตลาด คือ Huawei แต่ตอนหลังไม่เอาเข้ามาแล้ว ส่วน Samsung กลายเป็นเจ้าตลาดจอพับในไทย และ Oppo ที่พยายามเข้ามาแย่งส่วนแบ่ง
แต่เอาจริงๆ เราก็ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายจอพับจะได้ไปต่อในระยะยาวหรือไม่ หรือจะมีเทคโนโลยีจอรูปแบบอื่นเข้ามาเปลี่ยนอีกครั้ง
ส่วนฟาก Apple ก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จาก iPhone 13 จนมาถึง 15 ลองไปดูคลิปรีวิวจากหลายๆ ช่อง ก็พูดคล้ายๆ กันว่าไม่คุ้มที่จะเปลี่ยนใหม่ทุกปี เพราะมันไม่มีอะไรต่างแบบเห็นได้ชัด
ปี 2024 นี้การแข่งขัน สมาร์ทโฟน จะน่าสนใจขึ้นบ้างหรือยัง
เพราะในปี 2023 ที่ผ่านมา ต้องเรียกว่าเป็นปีที่การแข่งขันของสมาร์ทโฟนกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทุกแบรนด์กลับมาจัดงานเปิดตัวแบบออฟไลน์กันได้ปกติ (ยกเว้น Apple ที่ติดใจการจัดงานแบบอัดเทปล่วงหน้าไปแล้ว)
ด้านปัญหาด้านการขาดแคลนชิปก็ดีขึ้นมาก ไม่เจอปัญหาสินค้าขาดแคลนแล้ว
ส่วนแบรนด์ที่ชิงยอดขายในตลาดโลกตอนนี้ก็มี iPhone Samsung vivo Oppo Xiaomi และ realme ส่วน Huawei นั้นขายดีในจีนเท่านั้น อย่าง Mate 60 Series ที่เปิดตัวในจีนนี่เรียกได้ว่าขาดตลาดแบบหาไม่ได้เลย ล่าสุดที่ผมได้ไปเซินเจิ้นมาก็เห็นคนไปรุมดูรุ่นนี้กันมาก ซึ่งพนักงานก็ได้แค่พูดว่า ของไม่มีครับ
อ่ะ เรามาแตกประเด็นดูกันครับว่า มีเรื่องอะไรบ้างที่ในปีนี้ จะได้เห็นการแข่งขันกัน
CPU GPU
อันนี้ไม่ได้เป็นการแข่งกันที่ค่ายมือถือโดยตรง แต่เป็นบริษัทที่พัฒนาชิปเซ็ตแข่งขันกันเอง ไม่ว่าจะเป็นทาง Qualcomm ที่ล่าสุดก็เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 3 ออกมา ด้าน MediaTek, Exynos ของทาง Samsung และ Apple ในชิปตระกูล A
ก็คงจะแค่ออกมาบลัฟความเร็วกันว่า ชั้นเร็วกว่าแกนิดนึง แต่พอเอาไปใช้จริง ถ้าเป็นตัว Flagship เหมือนกัน มันก็ไม่ได้ต่างกันเยอะมากขนาดตาเห็น
Camera
วันนี้เราได้เห็นต่างคนต่างพัฒนากล้องไปในทิศทางของตัวเอง โดย Apple กับ Samsung เป็น 2 ค่ายใหญ่ที่มั่นใจในการพัฒนากล้องตัวเอง ไม่ได้ไปจับมือกับแบรนด์ระดับโลกเหมือนทางฝั่งจีน
ถามว่าที่ผ่าน 2 ค่ายนี้ทำภาพออกมาได้ดีมั้ย ก็ต้องบอกว่ามีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ทาง Samsung จะเน้นไปที่การถ่ายภาพนิ่ง การซูม การใช้ AI เข้ามาช่วยถ่ายภาพ ส่วนทาง Apple จะเน้นไปที่การถ่าย VDO คือใช้ iPhone แค่ตัวเดียวก็เป็น Professional ด้านการถ่ายทำหนังได้เลย
ขณะที่แบรนด์จีน พยายามเข้าไป Co-Engineer กับค่ายกล้องระดับโลก ส่วนหนึ่งเชื่อว่าต้องการใช้ชื่อเพื่อสร้างจุดขายให้แบรนด์มากขึ้น อีกส่วนคือการให้แบรนด์ตัวเองมีความรู้ด้านการพัฒนากล้องอย่างก้าวกระโดด
ตัวอย่างมีให้เห็นชัดเจน คือ Huawei ที่เคย Co-Engineer กับ Leica จนปัจจุบันไม่ต้องพึ่งพา Leica ภาพถ่ายก็ยังออกมาคมชัดจนน่าตกใจ
ล่าสุด Xiaomi เข้ามาสวมหมวกดึง Leica มาร่วมพัฒนา ก็เริ่มเห็นพัฒนาการของกล้อง Xiaomi ดีขึ้นมากหากเทียบกับเมื่อ 2-3 ก่อน และ Xiaomi ยังเป็นแบรนด์แรกที่กล้าเอาเทคโนโลยี Leica ลงมาใส่ในสมาร์ทโฟนราคาหมื่นกลางอย่างรุ่น 13T ที่เพิ่งปล่อยมาในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน vivo ก็จับมือ Zeiss ที่ปกติเขาจับมือกับ Sony หลังจากร่วมพัฒนา Flagship มา 3 รุ่น ใครที่ได้เห็นภาพจาก vivo X100 ที่เปิดตัวในจีนก็คงจะบอกว่ามันคมมาก สีสันดีขึ้นมาก ไม่ใช่กล้องที่ใส่ฟิลเตอร์ถ่ายออกมาหน้าขาวหลอกตาเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไปแล้ว
ส่วน Oppo ก็เป็นอีกค่ายที่ไปจับมือกับ Hasselblad กล้องสัญชาติสวีเดน มาใส่ในรุ่นท็อปเช่นกัน
เหลือ realme แบรนด์เดียวที่ติดชาร์จขายดีในตลาดโลก แต่ยังไม่ได้ร่วมมือกับแบรนด์กล้องตัวไหนเป็นพิเศษ แต่เอาจริงๆ ก็ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony และ Samsung เป็นหลัก เพราะฉะนั้นรูปที่ออกมาก็ถือว่าดีระดับนึงเลย
สรุปด้านกล้องถ่ายรูป ปีนี้ก็ยังคาดว่ายังไม่มีอะไรก้าวกระโดดไปมาก คงยังแข่งกันใช้ AI เข้ามาช่วยประมวลผลภาพเป็นหลัก ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น เช่น ถ่ายพระจันทร์ ถ่ายดาว ส่วนประเทศไทยเรา จุดขายของกล้องอยู่ที่ซูมเห็นไอดอลชัดๆ แม้ว่าจะซื้อตั๋วถูกสุดก็ตาม ใครทำได้ดีสุดก็ซื้อตัวนั้นแหละ
Gaming
ปัจจัยต่อมาที่จะช่วยดันยอดขาย คือเอาไปเล่นเกมได้ดีแค่ไหน ตรงนี้แข่งกันตั้งแต่ขนาดหน้าจอ ความคมชัด รีเฟรชเรต สู้แสงดีมั้ย ใส่แรมให้เยอะกว่าคู่แข่ง ถึงรุ่นไม่ท็อป แต่ให้ GPU เทียบเท่าตัวท็อป ซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก คือการเคลมสเปคที่เหมาะกับการเล่นเกม
ซึ่งหากมาดูภาพรวมการแข่งขันการเล่นเกมของปีนี้ อาจจะเห็นเรื่องการแข่งขันด้านราคาเข้ามาด้วย เช่น ราคาแค่ 5,000 ก็เล่นเกมสเปคสูงได้ เพราะ CPU GPU รุ่นใหม่มันก็เร็วขึ้นตามลำดับ รุ่นที่เจาะตลาดล่างก็ดึง Performance ออกมาได้ดีมากขึ้น
แต่ถึงแม้ฟาก Android จะแข่งกันอย่างหนักหน่วง ผมยังมองว่าปีนี้ตลาดฝั่ง iOS มีแนวโน้มจะจูงใจคนเล่นเกมได้ดีกว่า ตั้งแต่ปีก่อนที่ iPhone 15 Pro สามารถพอร์ทเกมจาก Playstation 4 มาเล่นได้ ถึงแม้จะยังไม่ได้ดีมากก็ตาม
รวมถึงการเชื่อมจอยจาก Playstation หรือ Xbox ก็ทำได้ง่ายกว่าฝั่ง Android
ส่วนฝั่ง Android ยังไม่มีวี่แววว่าจะทำได้เหมือนกับฝั่ง iOS เพราะด้วยความยากของการพัฒนาร่วมกัน แต่ละค่ายเลือกใช้สเปคต่างกัน หน้าจอต่างกัน ไม่เหมือนกับ iOS ที่มีแค่รุ่นเดียวต่อปี จะทำอะไรก็ง่ายกว่า
AI
เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ ของการพัฒนามือถือแต่ละค่าย ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นค่ายไหนทำ AI ได้ชัดเจนจนรู้สึกว่าซื้อสมาร์ทโฟนไปเพื่อใช้งาน AI เท่าๆ กับการซื้อไปถ่ายรูป
เท่าที่เห็นคือการใช้ติดเซ็นเซอร์เข้าไปในสมาร์ทโฟน หรือ AI ส่วนมากก็จะถูกใช้แค่กับเรื่องกล้องทั้งการถ่ายภาพและการปรับแต่งภาพเป็นหลัก
ซึ่งล่าสุด วันที่ 3 ม.ค. 2024 ที่ผ่านมาก็มีเรื่องให้ประหลาดใจ เมื่อ Samsung ออกมาเปิดตัวชัดเจนว่าสิ่งที่จะเปิดตัวใหม่ในงาน Galaxy Unpacked 2024 วันที่ 18 ม.ค. นี้ จะเป็น Galaxy ที่มาพร้อม AI ซึ่งก็คงต้องมาลุ้นว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะว้าวแค่ไหน และจะพลิกวงการ สมาร์ทโฟน ของปีนี้ไปเลยมั้ย
เพราะหากเปิดตัวมาแล้วมันว้าวมาก คนซื้อแบบถล่มทลาย ค่ายอื่นก็คงจะต้องชูเรื่อง AI เข้ามาเป็นจุดขายเช่นกัน เพราะวันนี้เราอยู่ในโลกที่คนขาดสมาร์ทดีไวซ์อย่างพวกมือถือไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
